24 ตุลาคม 2024

เหมือนเอา“แหน-แช่ในน้ำ” จะไม่เกิดแรง“กระเพื่อม” สร้างปฏิกิริยากระพุ่งเคลื่อนไหวแต่ประการใด

ที่ผ่านมานั้น..“ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยในกรณีใดมักเป็น“เอกฉันท์” ไปในแนวทางเดียวกัน ไม่“สวนทาง-ขวางกัน”มิใช่หรือท่านสารวัตร

การเสนอแก้ไข“รัฐธรรมนูญ รายมาตรา” ที่“พรรคเพื่อไทย”เดินเครื่อง “นำร่อง-ป้องกันอำนาจ“ตุลาการภิวัฒน์”ได้ยาก

ในเมื่อใช้หลักการ“ความเชื่อส่วนบุคคล” จะเอาอะไรไปขวาง“คลื่นกระแสน้ำป่า”ที่ไหลลงมาจาก“บุคคลทั้ง ๙”ได้เล่า..

โดยให้ใช้“เสียง ๒ ใน ๓” เพื่อมีความชอบธรรมในการ“สอย-ร่วงผล็อยลงมา”ของ“สส.และ รัฐมนตรี”

แทนที่จะ“สร้างกรอบ-ขอบเขต”ของ“ศาลรัฐธรรมนูญ”กันเสียให้แน่ชัด..เป็น“องค์กรอิสระ”ที่“พิทักษ์รัฐธรรมนูญ” ไม่ให้“ล่วงล้ำ-ทำเกิน”ตามที่รัฐธรรมนูญได้ตรากันเอาไว้

หากใช้“ความเชื่อส่วนบุคคล” มาพิจารณา ไตร่ตรอง ใคร่ครวญกันแล้ว เราจึงเห็นเรื่องที่“ไม่น่าเชื่อ-แต่ก็ต้องเชื่อ” ด้วยการวินิจฉัย“ลึกลับ-อึกกระทึก” ให้ประหลาดใจอยู่เสมอ

หยั่งกะกรณีของ “อดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช” อดีตนายกรัฐมนตรี ตกจากบัลลังก์อำนาจ เพราะ“จับตะหลิวทำกับข้าว”

ไม่รู้ว่า“รัฐธรรมนูญ” เป็น“กระสุนสังหาร” นักการเมืองที่มีคุณภาพ เช่น“ท่านสมัคร”กันได้อย่างไร

ด้วยผลงาน-อลังการสร้างสรรค์ของท่านที่ได้ทำเอาไว้ในการ“สร้างถนนวงแหวน” ให้เป็น“ใยแมงมุม” แก้ปัญหาการจราจรเมืองไทย ที่ติดกันตั้งแต่เช้า-ยันเย็นให้ผ่อนคลายกันได้ระดับหนึ่ง

ความเจริญด้าน“คมนาคม”ของประเทศไทย ต้องแล่นฉิว-ติดลมบนได้ไม่ยาก ถ้า“นายกฯสมัคร”ยังเป็น“หลักแห่งผู้บริหาร” ทำงานกันอย่างต่อเนื่อง

ปัญหา“จราจร-เดือนร้อนของราษฎร” ต้องดีขึ้นกว่าทุกวันนี้อย่างไม่สงสัย

เช่นเดียวกันกับการสร้าง“รถไฟความเร็วสูง”ของ“อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ถูกรื้อโครงการ โดน“คุมกำเนิด”ไปอย่างน่าเสียดาย

เหตุผล-ที่นายกฯหน้ามล “ยิ่งลักษณ์” ต้องยุติ“รถไฟความเร็วสูง”ไป..ต้องทำ“ถนนดินลูกรัง ให้หมดไปเสียก่อน”

มาตรฐานที่ว่า มีเป็น“ตัวบท-กฎกำหนด”ใน“รัฐธรรมนูญ”กันหรืออย่างไร

แต่ทำไมพอเป็น“รัฐบาลประยุทธ์” รถไฟความเร็วสูงจึงผุด-รุดเคลื่อนหน้าสร้างกันได้ ถึงจะเป็นเพียงแค่“๓.๕ กิโล” แต่ก็สร้างขึ้นมาได้ อย่างสวีวี่วี

ทั้งที่เมืองไทย ยังมี“ถนนลูกรัง” ที่เป็น“หินแลง”ก้อนเล็กๆ ให้เห็นกันเต็มในแดนไกลปืนเที่ยง กันมิใช่หรือ!!

“พรรคเพื่อไทย”อยาก“ผ่าตัดย่อย-ซอยถี่” ในการไข“รัฐธรรมนูญ-รายมาตรา” อยู่ถึง“๕-๖ ประเด็น”ด้วยกัน

เพื่อ“สร้างทางออก”ให้กับประเทศ ไม่ต้องมา“ติดแหง็ก-แป้ก” เพราะ“รัฐธรรมนูญ”ที่เกิดจากพันธุ์ปฏิวัติ ของ“คสช.”

ถึงจะใช้“เสียง ๒ ใน ๓” ยากต่อการ“สอย สส.และรัฐมนตรี”ให้ร่วงหล่น ก้นลงมานั่งจ้ำเบ้า..แต่ไม่น่า“จะได้ผล-บนความคิดของพรรคเพื่อไทย”กันดอกนะ

ควรแก้“รัฐธรรมนูญ” ให้เป็นไปตาม“มาตรฐานโลก-ไม่ต้องรกรุงรัง”กันให้ยุ่งยาก

ให้“ศาลรัฐธรรมนูญ” ท่านทำหน้าที่เป็น“ตุลาการ”กันตามกรอบ ที่รัฐธรรมนูญ“ให้อำนาจทอปฟอร์ม”กันเอาไว้

ทำหน้าที่รักษา“กฎเหล็ก”ของ“กฎหมายสูงสุด” ให้ลุล่วงตามเจตนารมณ์ เพียงเท่านั้นก็เลิศล้ำดีที่สุดกันแล้วหละ

เหมือนกับการ“รักษาพระวินัย” ที่ผ่านกันมาหลายพันปี แต่ก็ไม่ให้“เนื้องอก”ที่เกิดจาก“คนในศาสนา”ที่ปรุงแต่กันขึ้นมาใหม่

ไปสร้างเพิ่ม นอกเหนือจาก“ใบไม้กำมือเดียว”ของ“พระพุทธเจ้า” จึงเกิด“สนิมเนื้อใน” กัดกร่อน-บ่อนทำลายพุทธศาสนากันมากขึ้น

“ด้วยเนื้อแท้”แห่งหลักศาสนาที่มีอยู่..และ“ยึดมั่นให้ปฏิบัติ”กันอย่างเที่ยงแท้-แน่นอนนี่แหละ “ศาสนาพุทธ”จึงดำรงอยู่ได้อย่างไม่มีการ“พลิกผัน” เปลี่ยนแปลงตามการ“ปรุงแต่ง”ของคนที่มาสร้างขึ้นในยามหลัง

“ศาลรัฐธรรมนูญ”รักษาหนังสือทุกตัว ทุกบรรทัด ทุกมาตรา ตามที่“ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ”ได้สร้างขึ้นมา น่าเป็น“กฎเหล็ก”ที่ดีแล้ว

ไปหยิบเอา“พจนานุกรม” มาสับ-ให้“ท่านสมัคร”รับโทษ..ทั้งเอา“ถนนลูกรัง” หากจะ“สร้างรถไฟความเร็วสูง” ต้องไม่มีแบบนี้ “ความเจริญ-หยุดเดิน”ไปหลายปี

แก้รัฐธรรมนูญ ให้“ตุลาการ” รักษากระบวนการแห่งกฎหมายเพียงเท่านั้น ทุกอย่างไม่น่าจะมีปัญหา

ใช้หลักสอยสส. รัฐมนตรี ๒ ใน ๓..“เหมือนกับการย่ำ”..ถามสักคำ นี่จะเป็นผลดีในการแก้ปัญหาประการใดกัน

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *