24 ตุลาคม 2024

“เงินไหลเข้าชาติ-ผงาด” เพื่อก้าวเป็น“เสือแห่งอาเชียน”ได้อีก

“๔ เดือนสุดท้าย-ปลายปี ๖๗” ระหว่างเดือน “กย.-ธค.” มี“นักท่องเที่ยว”เดินทางเข้าไทยคึกคัก พลุกพล่าน มากมายเหลือคณานับ

“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “ททท.” เผยว่าช่วง“HiGH SEASON” ฤดูท่องเที่ยวที่นิยมพากันท่องเที่ยว มีผู้มาหา“กำไรชีวิต-ติดปีก”โลดแล่นในเมืองไทย ถึง “๑๒,๒๒๖,๕๐๐ คน” ขยายตัวเพิ่ม-เสริมรายได้เข้าประเทศอีก “๒๐%”

มีเงิน“ไหลกรู-พรูพรั่งเข้าไทย” ในปลายปีสุดท้ายถึง“๖๕๒,๘๒๖ ล้านบาท” เพิ่มขึ้นอีก“๒๙%” เมื่อเทียบกับปี ๖๖-เราอกตรมไส้เกรียมกันมา

“สถิติ-ที่คาดการณ์ไว้” คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ-มาจากตลาดหลักเอเชีย รองมาคือกลุ่มภูมิภาคยุโรป และเอเชียใต้

“๑๐ ประเทศ” ที่เปิดม่าน-ผ่านมาเที่ยวในไทย มี จีน ๒.๓๐ ล้านคน มาเลเซีย ๑.๘๓ ล้านคน อินเดีย ๗.๐๗ แสนคน เกาหลีใต้ ๗.๔ แสนคน รัสเซีย ๖.๙๘ แสนคน สิงคโปร์ ๔.๒๘ แสนคน ไต้หวัน ๓.๗๗ แสนคน ญี่ปุ่น ๓.๔๖ แสนคน สหรัฐ ๓.๔๑ แสนคน

เมื่อ“ดีดลูกคิดรางแก้ว” สะระตะกันแล้ว แนวโน้มปี ๖๗ คาดมีนักท่องเที่ยวมาไทยถึง “๓๕.๙๙ ล้านคน”

“ยอดขยับ-ปรับขึ้นถึง ๒๘ %” เป็นไปตามเป้าที่“ททท.”กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า “๓๕ ล้านคน”

ตามยอดเงิน เศรษฐกิจก็เดิน รีเทิร์นกลับมา“สะพัด” ทำให้ตลาดท่องเที่ยวไทยโกยขึ้นประมาณ “๑.๘๑๘ ล้านล้านบาท” ทีเดียวเลยแหละ เป็นการทะยานขึ้น-ตื่นตา ถึง “๓๒ %” เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ที่เรากระปลก-กระเปลี้ยเต็มที

ส่วนการ“ท้าทาย-ท่องเที่ยวไทย” มีอยู่หลายปัจจัยเช่นกันนะท่านสารวัตรเอ๋ย เพราะการส่งเสริมท่องเที่ยว ตลาดเชิงรุกของคู่แข่งในตลาดเอเชียแปซิฟิก ต้อง“พันตู-สู้กัน”ค่อนรุนแรง

หยั่งกะ ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้-ไต้หวัน-เวียดนาม ที่เขาจัดโปรมาชันแรง-แซงหน้าไทย ไปอย่างสุดฤทธิ์-สุดเดช

รวมถึงความไม่แน่นอนทาง“เศรษฐกิจ” และความเสี่ยง“เศรษฐกิจขนาดใหญ่ชะลอตัว” เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ ที่สู้รบอย่างหนัก-แตกหักกันให้ได้ จากสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ อิหร่านกับอิสราเอล รัสเซียกับยูเครน

ถ้าสงครามบานปลาย-ไม่ยุติลงเสียที ส่งผลกระทบกับ“ราคาบัตรโดยสารแพงขึ้น” ซึ่งทุกประเทศต่างก็หวั่นใจ-ไหวหวาดกันไปทั้งหมด

“เชื้อบ่มเพาะ-เปราะบาง”อีกหนึ่งอย่างของประเทศไทย คือ “นักร้อง-จ้องล้มรัฐบาล” ไม่รู้จะร้องลั่น-สันดานดิบไปไหนกัน

ไม่“คำนึง-ถึงชาติบ้านเมือง” ที่“รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร เข้ามากอบกู้-สู้ปัญหาเศรษฐกิจที่ติดลบกันมาเกือบจะ ๒๐ ปี

“เศรษฐกิจเดินไม่ได้-ฉิบหาย”กันในขณะนี้.. แทนที่จะ“ทอดระยะ” ปล่อยช่วง“เล่นเกมการเมือง”เสียหน่อย-มันก็ต่อยใต้เข็มขัด กันไม่เลิก กับเดินหน้า“จัดหนัก-หักดิบรัฐบาล”กันไปเสียทุกเรื่อง

พวกนี้ก็เหมือนกัน “นักการเมืองไทย-ใจพม่า” คิดแต่จะ“ชิงอำนาจ-อุบาทว์อย่างไร” ก็งัดมาใช้เป็นกลยุทธ์ อย่างไม่เห็นหัวคนไทย

เมื่อ“เสถียรภาพ-จับไปขึ้นเขียง” รอการตัดสินของ“ตุลาการ” จะมี“นักท่องเที่ยว” และ“นักลงทุนต่างชาติ” ใดสนใจ มาไทยเล่า

ผิดกับ“ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้-ไต้หวัน-เวียดนาม” ที่“การเมืองเขาแข็ง” ไม่มีแรงกระเพื่อมจากคนในชาติเดียวกันมาเป็นตัว“บ่อนเซาะทำลาย”

การเติบโตด้าน“จีดีพี-มีแต่พุ่งไม่หยุด”..ขณะที่ไทยเราได้“นายกฯแพทองธาร” มาเพียง ๒ สัปดาห์เศษๆ คะแนนนิยม-ชมชื่นในตัว“นายกฯอุ๊งอิ๊ง”ขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ว่องไว ไปไกลกว่าคนอื่นจะไล่ขึ้นมาทัน

มาจากการทำงาน-เนื้องาน-หน้างาน ที่ลงไป“คลุกคลี-มีสัมพันธ์กับประชาชน” ที่แสนจะใกล้ชิด เพื่อไม่ให้“ประเทศชาติถอยหลัง-พังอย่างไม่เป็นท่า” อยากให้“กกต.” และ“ศาลรัฐธรรมนูญ” ชี้ลงมาให้เร็ว มีความคิดเสียให้ด่วนจี๋

“คำร้อง-จ้องล้มแพทองธาร” ถ้าสิ่งใด“ฟ้องไม่เข้าแก๊ป-แอบรับใช้การเมือง”แล้วล่ะก้อ ควร“วินิจฉัย-ให้สิ้นกระบวนความ” อย่าชักสะพานแหงนเถ่อกันไปอย่างไม่สิ้นสุดกันเช่นนี้..

ปล่อยให้“ค้างท่อ-หยิบมาจ้อ”ปั่นกระแสทำลาย“รัฐบาลแพทองธาร”กันอยู่นั่นแหละ “เศรษฐกิจ”มีแต่เป็นพิษ-ติดร่างแหไม่เลิกเสียที

หากแม้นว่าคำร้อง“ถูกตีตก-ยกประโยชน์”กันให้หน้าตาเฉยเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้หรอก เพราะนี่“เข้าข่าย-ใส่ร้าย”เพื่อทำลายชาติ ไม่ให้เดินไปข้างหน้า

เมื่อ“ร้องสะเปะสะปะ-จะปล่อยให้ลอยนวล”กันคงไม่ได้แล้ว

เพราะ“สันดานกำพืด”ที่ทำกันเยี่ยงนี้ มันไม่รู้จัก“หลาบจำ-คงพร่ำ”ทำซ้ำ-ทำซากเช่นนี้กันไม่เข็ดขยาด

“ฟ้องเท็จ-ต้องเช็ดบิล”กันทันที..สั่งจำคุก เพื่อไม่ให้“ร้องจำเจ”เกินขอบเขตกันเกินไป

เอามันเขาคุก.. “ปากสมองมืออยู่ไม่สุข” คุกเท่านั้นแหละ ถึงเอาพวกนี้มันอยู่

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *