ยักษ์-ลักอำนาจประชาชน
“เหยี่ยว”ที่บินตามหลัง“นกกระจอก” ไม่เป็นไปตามธรรมชาติของสัตว์โลก
“รัฐบาล”ต้องเงี่ยหูฟัง“ธนาคารแห่งประเทศไทย” เศรษฐกิจจึงน่าห่วง-ร่วงหล่น อย่างที่เห็น
ได้อำนาจจาก“ประชาชน”ให้มาแก้ปัญหาผ่านรัฐบาล แต่“แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาไม่พ้นห่วง-เพราะมีตัวถ่วงคอยขวาง
“เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าฯธนาคารแห่งประเทศไทย “ธปท.” ที่เป็น“เสือข้ามห้วย” เพราะมีอำนาจ“ปฏิวัติช่วย” จึงโหนเถาวัลย์-ดั้นเมฆ เข้ามาเป็น“นายใหญ่แห่งบางขุนพรหม”ได้…
ถ้าไม่มี“เดชฤทธิ์-อำนาจพิเศษ” จาก“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยังต่อแถวรั้งท้าย-อยู่ที่ไหนในธนาคารแห่งประเทศไทยก็ไม่รู้
เป็น“ทีมอเวนเจอร์”ชุดเดียวกับ“รัฐบาลปฏิวัติ” จึงได้ผงาดพ้นจาก“หลอดแก้ว” ที่“พล.อ.ประยุทธ์”ทำคลอด-ต่อยอดมาถึงวันนี้…
มีการยกตน-จนเหมือนกับว่า “ท่านเศรษฐพุฒิ”เป็นคนรุ่นใหม่สมองไบร์ทเพียงคนเดียวที่มีผลงานเข้าตาเป็นอย่างยิ่ง
และก็เป็นเช่นนั้น-ท่านเปิดบริการรับใช้“รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์”อย่างเต็มร้อย ชนิดที่ว่า“ไม่มีตกหล่น-สักหนเดียว”..อยากได้เงินมาแจก“คนละครึ่ง-บึ่งบริการ”กันอย่างมิดเกียร์
ร้อยแปดพันประการสิ่งใด ที่เป็น“ข้อบกพร่อง-ท่านก็ปกป้อง”อย่างดีเยี่ยม ไม่มีการขาดเกิน
เศรษฐกิจเราอยู่“ช่วงขาลง-ส่งออก”เจ๊งระเนระนาด-คนในชาติมองกันเห็น เพราะ“บาทแข็ง-แรงกว่า”สกุลเงินตราอื่นๆ
ทำให้“ราคาข้าว-พุ่งเอาพุ่งเอา” จนต่างชาติ“เบ้หน้า-เลิกสัญญา”ไปก็มี..ทั้งที่“ประเทศไทย”ไต่อันดับ-กลับมาเป็น“เบอร์หนึ่ง”ในการส่งออกข้าว แต่ก็ถูก“ทำลายย่อยยับ-กับตา”อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ
“นายกฯอุ๊งอิ๊ง” และ “คุณพิชัย ชุณหวชิร” ขุนคลัง ใช้“ไม้น่วม-สวมบทบาทนิ่ม” ที่จะไม่“หักพร้าด้วยเข่า”กระทำการใดไปด้วยอำนาจ แต่เหมือน“ธนาคารแห่งประเทศไทย”ฮึกเหิมได้ใจ-คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ ในการ“คุมเสถียรภาพการเงิน”
จน“ผู้ส่งออกข้าว-ร้องเจี๊ยวจ๊าว” ทนไม่ไหวแล้วล่ะคุณเจ้าขา “ข้าวไทย”ของเราแพงกว่า“อินเดีย-เวียดนาม” ตามก้น-ดมตูดเขาอย่างหนักในเวลานี้
ประเทศใด-แผ่นดินไหน จะมี“ซื้อข้าว”ที่“ราคาแพง”กว่ากันตั้งตันละ ๒-๓ พันบาทเล่า
ลูกค้าชั้นดี เกรดหนึ่งของไทยเรา-เขาจะหน้าด้านมาซื้อของแพง เพื่อถูกใช้เป็นข้อหาว่า“ทุจริต”กันนะหรือ?
นี่ไม่ใช่เป็น“วิบากกรรม” แต่เป็น“การกระทำ”ที่เกิดขึ้นจากน้ำมือใคร..“ธนาคารแห่งประเทศไทย”ต้องรู้แน่…ที่ตั้งตัวเป็น“องค์กรอิสระ” จะทำการใดก็ได้ ไม่ฟังแม้แต่เสียงรัฐบาลที่“ประชาชนให้อำนาจมา”
ประเทศไทยจะเดินได้คล่อง-เพราะสองขาต้องไปด้วยกัน วันนี้“กระทรวงการคลัง”ไปอย่าง.. ฝั่ง“แบงก์ชาติ”ไปอีกทาง เศรษฐกิจไทยไม่ป่น-จนบรรลัย มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันล่ะ
เหมือนกับ“หมอ” เมื่อวินิจฉัยโรคจนเป็นที่แน่ชัด จึงจำเป็นจะต้องจ่ายยา ก็ต้องจ่ายตามอาการของโรค หรือถ้า“อาการหนัก” แพทย์เขาก็ไม่ปล่อยให้เป็น“อุปสรรค” ต้องมีการ“ยกเครื่องใหญ่-ผ่าตัดแก้ไข” ให้เกิดความปลอดภัยกันอย่างทันท่วงที
อำนาจแห่งประชาชน“ต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” เมื่อ“แบงก์ชาติ”ทำตัวเป็นยักษ์-ลักอำนาจของประชาชน โดยไม่ฟัง“รัฐบาล”เช่นนี้
ต้องปรับจูน-ลุ้นแก้กฎหมาย ให้มาอยู่ใต้คอนโทรล-เหมือนตอนแรก ที่“แบงก์ชาติ”ต้องฟังเสียงจาก“เจ้ากระทรวงวายุภักดิ์”กันเหมือนแต่ก่อน
จะให้เป็นเอกเทศ-มีอำนาจพิเศษ เพราะมาจาก“รถถัง” และ“ปลายกระบอกปืน” ที่สร้างและกำหนดให้เป็น“องค์อรอิสระ” คงจะไม่ได้ดอก
“รัฐบาลประชาธิปไตย”ควรมี“กลไก”ทุกอย่างในการ“รองรับ-ขยับขา”เพื่อก้าวตาม ให้นโยบายต่างๆที่ทำเพื่อประชาชน สำเร็จโดยเร็ว
เห็นกันแล้วว่า “ดิจิตอลวอลเล็ต” แจกเงิน“10,000 บาท”.. ถ้าไม่มี“คุณเศรษฐพุฒิ”หลุดออกมาขวางกันอย่างพร่ำเพรื่อ ป่านนี้“เศรษฐกิจไทย-ไปโลด”ตั้งนมนานกันแล้วล่ะลุง
นี่แจกเดือนเดียว-เพียงส่วนเสี้ยว ก็ทำให้“เกิดสภาพคล่อง” ประชาชนพี่น้อง“มีเงินจับจ่าย”กันหน้าบานทั้งแผ่นดิน
เพราะอำนาจ“ปฏิวัติ” อ้างว่าต้องมีเหตุอันเป็น“เรื่องสาหัส-จึงจัดทัพ”ภายใน“แบงก์ชาติ กันได้…
ในเมื่อเกิดเหตุ“อันเป็นที่ประจักษ์” ว่าเป็น“ผู้สร้างอุปสรรค” ให้เศรษฐกิจไทย กระปลก-กระเปลี้ย ควรจัดทัพใหม่ เปลี่ยน“ผู้ว่าฯธปท.”เสียที
ควรใช้ทุกข้อผิดพลาดเป็นสาเหตุ.. “ปลดให้พ้นเป็นบุญประเทศ” เฉดให้ไปเร็วเท่าไหร่ ยิ่งมีแต่คนสาธุ-ขอรับ
“กะพรุนไฟ”