แก่พุงโก่ง-จวนเข้าโลงอยู่แล้ว
เป็น“หมาเน่ากับหนอน” ที่อยู่กับ“ซากฟอสซิล”แห่งต้นรากของยุคดึกบรรพ์ได้ขนาดแท้ ที่ออกมาร่วมกัน“แสดงวิสัยทัศน์”ได้โง่เง่า เซ่อทึ่ม “ปัดซบ”..เอ๊ย.. “บลัชออน”เป็นอันมากส์
ถ้าหาก“ฉลาด”..มิได้“ขาดปัญญา” เหมือนที่แสดงภูมิรู้มา “นายบัณเฑาะว์”ผู้เป็นกระเทยควายเฒ่า คงจะไม่“เหยียด” น่าให้เกียรติ“๒ สตรี ดอกไม้ของชาติ”บ้างนะ
ที่เธอเป็น“บุปผางาม-ผู้นำแผ่นดิน” ที่มีคุณภาพ-ระดับ 5 ดาวของประเทศ
ถ้าวันนั้น นายบัณเฑาะว์ผู้นี้ หากแม้นว่าเกิดในยุค“ต้นสกุลหมิง” ก็เป็นแค่“ขันที” คอยรับใช้เขาจนแก่ตาย
ตัวเองก็เปรียบเสมือกับ“เต้าเสียบ-เต้ารับ” ที่ร่วมสังวาส“เสพประตูหลัง” กับ“พวกไม้ได้เดียวกัน” ควรมีความคิดสร้างสรรค์เหนือใครๆ
“คุณค่าแห่งชีวิต” มีแค่“การศึกษาสูง” แต่ก็เป็น“บัฟฟาโล่ตัวเลว” ที่ใช้“จิตต่ำ-คำด้อย”ที่ไร้คุณค่า แก่ฝ่ายประชาธิปไตย ทุกวัน
คนที่ว่าเป็น “๒ อีโง่” คนทั่วโลกรู้ และเรารับรู้..หมายถึงใคร ที่ทำให้“สะเทือนซาง” กันเพียง ๒ คนในแผ่นดิน
ในเมื่อคิดว่า“ตัวเองกล้า-ด่าผู้หญิง” ซึ่งเป็นคนประเภทแม่แล้วล่ะก้อ ควรจะเปิดชื่อออกมาให้“อล่างฉ่าง” กันอย่างเต็มที่ เด่นชัด เปิดเผย-ออกมาเลย
ไม่ใช่มา“กระมิด-กระเมี้ยน” ชะมด ชม้อย กันเยี่ยงนี้
ในเมื่อคิดว่าเป็น“เสรีภาพ” คิดจะทำอะไรอย่าง“อิสระเสรี”ประการใดก็ได้ ก็จงแสดงตัว“อิสระเสรี”ออกมาให้เห็น “ร่างบาบี”ที่เป็นควายตามภาษามาเลเซีย เสียให้ชัดจะดีกว่าไหม
“๑ อีโง่” ที่เที่ยว“โกหก”ว่าไร้ความสามารถ-มีอำนาจ ก็ทำอะไรไม่เป็น…
ในวันที่“อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ดำรงตำแหน่ง และโดน“ขบวนการชุดลายพราง” ออกมา“ปฏิวัติรัฐประหาร”ยึดอำนาจไปนั้น เพราะการ“สมคบคิด” ทฤษฎีร่วมกันของ“สลิ่ม-ครีบเหลือง” ที่วางแผนกันมาตั้งแต่ต้น
เปิดประตูให้มีการ“ลากรถถัง-ถือปืนจังก้า”ของเหล่า“นักรบเสื้อเขียว” ออกมาโค่นกระดานฝ่ายประชาธิปไตย
ถ้า“ยิ่งลักษณ์”ยังแผลงศร-ทำหน้าที่“รับใช้ราษฎร”จนครบเทอมตามกำหนดที่รัฐธรรมนูญได้ตราเอาไว้ ปานนี้เรามี“รถไฟความเร็วสูง”ใช้ เป็น“สมบัติคู่เมือง”ไปแล้ว
แต่ความคิดของ“นายบัณเฑาะว์” ที่เกาะกินด้วยความ“อิจฉา-ริษยา”จนตาบอด มองไม่เห็นถึง“คุณงาม-ความดี”
ใช้แต่ความคิด“บิดตระกูด” บิดไป-บิดมา นำ“ความเลวมาเดินหน้า” ผิดผู้-ผิดคน สับสนเช่นนี้แหละ บ้านเมืองถึงได้ล้าหลัง
“รถไฟความเร็วสูง” หากก่อสร้างสำเร็จ-เด็ดขาด ในยุค“รัฐบาลยิ่งลักษณ์”แล้ว..เราจะ“ทำเงิน”เข้าประเทศอย่างมหาศาล-บานบุรี ทีเดียวเชียว
“เส้นทางสายไหม”บน“รถไฟความเร็วสูง” ลำเลียง“นักท่องเที่ยวต่างชาติ” จากกรุงเทพฯไปยังเมืองเชียงใหม่แบบพริบตา และใช้“รถไฟความเร็งสูง” ขนส่ง-คนไปลงที่แผ่นดินตะวันออกเฉียงเหนือแห่งที่ราบสูง จังหวัดหนองคาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เส้นทาง“รถไฟความเร็วสูง” จะขนถ่าย-ย้าย“พืชผลทางการเกษตร” ไม่ว่าผลไม้อะไร กระทั่ง“ทุเรียน”ก็นำส่งยัง“ประเทศจีน”ได้เป็นอย่างดี
ที่มัน“สร้างคำบาป-ประทับตัว”ให้กับ“ยิ่งลักษณ์”นั้น..“มันคิดผิด-จิตหลุด”เสียนี่กระไร
ว่า“สร้างรถไฟความเร็วสูง”อย่างไร้หัวคิด.. เพื่อนำ“ขนส่ง”เอา“ผักผลไม้”ย้ายมาขายมันจะ“ได้ประโยชน์อะไร”
แล้วที่“รถไฟความเร็วสูงลาว-จีน”… จาก“เวียงจันทน์”ไปยัง“บ่อเต็น” สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้ ๒ ประเทศ อย่างล่ำซำ
เก็บผัก-ผลไม้ จากจีน.. มาถึงมือผู้บริโภคที่ตลาดไทยได้กิน “รู้รส-ถึงความอร่อย”ที่ชุ่มฉ่ำ เหมือนปอกกิน ณ แดนมังกรจีนไม่ผิดกันเลย
นี่ยังมาสร้าง“สาระเลว-ความเหลวไหล”กันอย่างไม่หยุด โจมตี“นายกฯอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ว่าเป็น“อีโง่ ๒” ไร้สมอง ไม่มีความคิดอ่านทางการเมือง
เหมือนว่า“นายกะเทย” ผู้เป็นเช่นบัณเฑาะว์ขันทีตกยุคคนนี้ เอาสิ่งที่“ครอบงำ-ยำกันจนเปรอะ” มาโจมตีเขาอย่าง“มัวเมา”ในคำพูด
ถ้าเธอเลว-ร่วงตกเหว เหมือนกับที่“ขันทีเฒ่า”คนนี้กล่าวหาเอาไว้..ทำไม“คะแนนศรัทธา”จากผลงานที่ทำเพียงแค่ ๒ เดือน ถึงได้กระฉุด-พุ่งหลุดคำนินทากันอยู่ทุกเมื่อ-เชื่อวันล่ะ
มิหนำซ้ำ ยังเป็นผู้นำที่“งามสง่า-ในสายตา ๒ บิ๊กระดับโลก”ด้วยนะจะบอกให้
“อินทรี-สหรัฐอเมริกา” และ “มังกร-สาธารณรัฐจีน” ต่างชื่นชมในบทบาท “แพทองธาร” จนข่าวดังไปทั่วโลก
การเรียกร้องให้“พฤติการณ์เดิม” ให้ใช้อำนาจ“นอกรัฐธรรมนูญ” เอา“อีโง่ ๒”ออกไปเหมือนกับ“อีโง่ ๑”ที่เคยได้ผลมาแล้ว
แก่เฒ่าจนพุงโก่ง..”หง่อมจวนจะเข้าโลง”..ตายโหงเหมือนไหร่ก็ไม่รู้ คิดทำดีเพื่อประเทศเป็นบ้างไหม?
“กะพรุนไฟ”
