24 ตุลาคม 2024

‘ตรีชฎา’ ดึงสติ ‘วรงค์’ ปมจำนำข้าว มติปปช.ชัดไม่แจ้งข้อหา-ไม่มีเทปลับ

0

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยกคำร้องสำนวนคดีทุจริตจำนำข้าวแบบจีทูจี ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใจความว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คิด เพื่อไทยทำ แน่นอนว่า สโลแกนดังกล่าวต้องถูกเชื่อมโยงไปถึงแผนระบายข้าว ที่สำคัญที่สุดการที่ ป.ป.ช.ตีตกตระกูลชินวัตรไม่ได้หมายความว่าคนพวกนี้ไม่ได้โกงจำนำข้าวนั้น ว่า นพ.วรงค์คงอยากจะให้คำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.เป็นลบต่อตระกูลชินวัตรให้ได้ใช่หรือไม่ จึงเอาแต่ตั้งข้อกังขาว่าคนกลุ่มนี้ยังโกง ซึ่งไม่รู้ว่าหมายถึงใคร แต่ด้วยบริบทที่ นพ.วรงค์โพสต์ข้อความดังกล่าวนั้น ทำให้วิญญูชนและสังคมเข้าใจผิดไปว่าหมายถึงนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งหากหมายถึงบุคคลทั้งสามข้างต้นแล้ว ถือว่าครบองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาท ใส่ร้ายความเท็จให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย เป็นความผิดทางอาญาด้วย

น.ส.ตรีชฎา ยังกล่าวด้วยว่า หาก นพ.วรงค์ศึกษาคำวินิจฉัยของศาล จะพบว่าศาลยังไม่เคยพิพากษาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีความผิดฐานโกงจำนำข้าวอย่างที่ นพ.วรงค์กล่าวหา ดังนั้น พรรค พท.ไม่จำเป็นต้องร้องขอความเป็นธรรมจาก นพ.วรงค์ แต่ นพ.วรงค์เองควรยับยั้งชั่งใจในการใส่ร้าย น.ส.ยิ่งลักษณ์เสียบ้าง แล้วเอาเวลาไปศึกษาคำพิพากษาของศาลให้ถี่ถ้วน

“หยุดวาทกรรมเดิมๆ และควรใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ด้วยการไปลงพื้นที่ศึกษาปัญหาพี่น้องประชาชน หรือคิดค้นนโยบายเพื่อต่อสู้ในสนามเลือกตั้งครั้งหน้าจะดีกว่า” น.ส.ตรีชฎาระบุ

สำหรับประเด็นนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. วันเดียวกันมีการพิจารณาคดีกล่าวหาคดีระบายข้าวแบบจีทูจีภาคสอง ที่มีการกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก เช่น นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาว วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นต้น

โดยที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีการชี้มูลความผิด พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ กับพวก เช่น กลุ่มเอกชน ฐานสนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ขณะที่ในส่วนอดีตข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ นางปราณี ศิริพันธุ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ถูกชี้มูลความผิดแค่ทางวินัยร้ายแรง แต่ไม่โดนคดีอาญา เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำผิดในลักษณะประมาทเลินเล่อ ไม่ตรวจสอบสัญญาการซื้อขายให้รอบคอบว่า รัฐวิสาหกิจจีน 4 แห่งที่มาซื้อข้าวจีทูจีนั้นได้รับมอบหมายอย่างเป็นทางการจากจีนหรือไม่

ส่วนบรรดานักการเมืองที่ถูกกล่าวหา เช่น นายบุญทรง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2 อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ประชุมมีมติตีตกข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ ในส่วนของนายบุญทรง ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในประเด็นเรื่องข้อกฎหมาย โดยกรรมการ ป.ป.ช.บางราย เห็นว่าการกันตัวนายบุญทรงไว้เป็นพยานนั้น อาจไม่ชอบด้วยข้อกฎหมาย เนื่องจากเคยตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา และจำเลยในคดีข้าวจีทูจีภาคแรก อาจขัดกับหลักการ

อย่างไรก็ดีที่ประชุมมีมติ 6 ต่อ 1 เห็นว่า ให้กันตัวนายบุญทรงเป็นพยาน จึงไม่ถูกชี้มูลความผิดในครั้งนี้ ส่วนกรณีนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภานั้น เคยตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีระบายข้าวจีทูจีภาคแรกมาแล้ว และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ขณะนั้น มีมติไม่แจ้งข้อกล่าวหา ดังนั้นการนำบุคคลทั้ง 3 รายมาแจ้งข้อกล่าวหา และพิจารณาอีกครั้ง เข้าข่ายไม่ชอบด้วยข้อกฎหมาย และเป็นการฟ้องซ้ำ

ส่วนที่มีการกล่าวอ้างของนายบุญทรง ที่ระบุว่า มีเทปบันทึกการสนทนาลับที่โรงแรมชื่อดัง ระหว่างนายทักษิณ ที่โฟนอินเข้ามาหานายบุญทรง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา เพื่อสั่งการระบายข้าวจีทูจีนั้น ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเป็นเพียงการกล่าวอ้างของนายบุญทรง ไม่มีเทปลับบทสนทนาดังกล่าวอยู่จริง จึงไม่มีพยานหลักฐานใหม่ที่จะนำตัวบุคคลทั้ง 3 มาพิจารณา ให้ข้อกล่าวหาตกไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *