“เริ่มบุบ-ชุบไม่ขึ้น”
“วันที่ประชาธิปไตยสดใส”
สิ่งที่ “เคลือบและฉาบทา” เอาไว้.. ก็เห็นชัดคาตา ว่า “แปดเปื้อน” เกิดความ “เสื่อมเสียชื่อเสียง” ปิดฉันใด-ก็ปิดไม่ได้
ทะลุกลางปล้อง “สอด” อย่างไม่ถูกจังหวะ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ฟิวส์ขาด-บัลลาสต์บวม เกิดอาการช็อกกลางอากาศ ที่ถูกตั้งฉายา “แปดเปื้อน” เป็นการ “เสียศูนย์” เก็บอาการไม่อยู่
ขึ้นรถบนรถกันกระสุน มีเสียง “พล.อ.ประยุทธ์” สวนกลับมา “ประเพณีบ้าๆ บอ ๆ อย่างนี้ไม่มี” ไม่สบอารมณ์เป็น “สองเด้ง” ที่ถูกลากมากลางทำเนียบฯ ให้เห็นสภาพแท้จริง “แปดเปื้อน” แต่สวมใส่ “หน้ากากคนดี”
โกรธความจริงที่เขาบอก..”ทองปลอมมันลอก” พอกไว้ไม่อยู่แล้ว-ตอนนี้
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“เอาประยุทธ์คืนไปเอาทหารเรือคืนมา”
“ความรับผิดชอบ” เป็น “ภาระที่ยิ่งใหญ่” เหมือนกับ “อำนาจยิ่งใหญ่ที่ได้มา” สั่งการอะไร ให้โดดเดี่ยว-เต็มด้วยปัญญา
“บัญชาการ” ของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯผู้สวมหมวก ๒ ใบ เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ช่างเหมือนเป็น “งานรูทีน” ที่ทำเป็นประจำ งานที่ทำอย่างปกติ สม่ำเสมอ เป็นงานหลัก ไม่มี “ซอฟเพาเวอร์ปัญญา” ใช้อำนาจทางการทหาร
เท่าที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ออกคำสั่งบัญชาการ ให้ “ทัพเรือ” ค้นหา “ลูกเรือ-เรือหลวงสุโขทัย” จนครบทุกนาย พร้อมเยียวยาทุกครอบครัว “คนไทย” พากันสั่งการเช่นนี้แต่วันแรก ซึ่ง “ทัพเรือ” เขาก็หากันอย่างถี่ยิบ
น้ำท่วมก็ไปอืดไม่ทันการณ์..เรือล่ม “ผ่านมา ๖-๗ วัน” เพิ่งสั่งการ ช่างช้าเหมือน-ทุกทริป
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“กฎหมายต้องโปร่งใสตามมาตรฐาน”
ถ้าคิดว่า “คนผิด” ที่หนีไปอยู่ต่างประเทศ เป็นการ “ส่งซิก” กระแทก “ทักษิณ ชินวัตร” และ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ๒ อดีตนายกรัฐมนตรี-คนสำคัญ
“ไทยมีกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามประเทศ” ดินแดนที่ “ทักษิณ” และ “ยิ่งลักษณ์” ไปเยือนเป็นกิจวัตร ทำเป็นประจำ..ล้วนมีความผูกพันธ์กับ “รัฐบาลประยุทธ์” เข้าขากันเสียด้วย..
ประเทศ “มังกรจีน” ของ “สี จิ้นผิง” ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ยึดเป็น “ไอดอล” ใช้ปกครองชาติบ้านเมือง ไม่ยักส่งตัวกลับมาให้ เมื่อไป “กัมพูชา-มาเลเซีย-อินโดนีเซีย-สิงคโปร์” หรือกระทั่ง “อังกฤษ” ไม่ส่งตัวกลับมา
เหมือนประเทศพวกนั้นไม่เชื่อ..ยิ่งพูด “ยิ่งเข้าเนื้อ” ไม่เหลือหน้า-เหลือตา
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“จะดิ้นดีดเป็นกุ้งเต้น”
หมดสมัย “รัฐบาลหน้ากากคนดี” สิ่งที่ซ่อนเอาไว้ จะทำให้ “แวดวงการเมือง” มีคน-ตายทั้งเป็น
ได้แต่สงสาร “บริวาร” ที่ใกล้ชิดรับใช้ “นักการเมือง” อาจตกเป็น “ผู้ต้องหา” กันระนาว ที่เป็นเสมือน “บ่าว” คอยรับใช้นายทุกอย่างที่เขาสั่งการ
พวก “ตัวใหญ่” ที่งาบกันเหมือนเช่น “ฮิปโปปากกว้าง” จะรอดสันดอน ไม่เกยตื้น..เมื่อ “กฎหมายเอื้อมมือไม่ถึง” พวกนี้ได้แต่ “สั่งการ” ลูกกะโล่ มี “เซ็นเอกสาร” จึงถูกมัดแน่น หลัง “หน้ากากคนดี” ถูกฉีกกระจุย
คิดว่ารอดอย่างปรีดิ์เปรม..แต่นักการเมือง “อาจจะเกม” เพราะเขา-ตามขุดคุ้ย
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“สมมตินามตามท้องเรื่อง”
“ถูกต้องแล้วครับ” ที่ “ส.ว.ลากตั้ง” วันชัย สอนศิริ พูดตรงเป๊ะ ได้แม่นยำ ที่เปรียบเอาไว้ว่า “ส.ว.เป็นยักษ์เป็นมาร เป็นตัวถ่วงประชาธิปไตยทางการเมือง”
รู้ตัวว่าเป็น “ยักษ์เป็นมาร” กันขนาดนี้ ต้องยอมรับสภาพ ความเกลียดชัง ที่ “ประชาชน” เขาดูแคลน “พวกลากตั้ง” กันเอาไว้อย่างจงเกลียดจงชัง กันอย่างไร
แต่ไม่รู้ว่าความหมาย ของ “ส.ว.วันชัย” มีเค้าแปลงร่าง-สร้างตน เป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย” เขาบอกใบ้อะไร “ทางลึก” ที่ว่า “ส.ว.ไม่ใช่ของตาย” เตือนให้ระวัง “นอนมามีพระนำหน้า” อาจเป็น๔ คนหาม ๓ คนแห่พาขึ้นเมรุ
ถ้า ส.ว.ไม่โหวตเป็นรัฐบาล.. “ตกเป็นฝ่ายค้าน” เท่ากับตายอยู่ใน-โลงเย็น
“กะพรุนไฟ”
๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๕
