ก้าวสู่ปีที่ 21 กับ ‘บางกอกทูเดย์’
ปี 2566 สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ ครบรอบ 20 ปี ก้าวสู่ปีที่ 21 เป็นการก้าวเดินท่ามกลางภาวะการเปลี่ยนแปลงของวงการสื่อ จาก Disruption ที่ทำให้สภาพแวดล้อมธุรกิจสื่อของไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะทิศทางของ New Media ที่มาแรงและหนักหน่วงยิ่ง
สำหรับสำนักข่าวบางกอกทูเดย์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาโดยตลอด ทั้งจากแรงกดดันภายนอก และปัญหาในการทำสื่อให้คงคุณภาพ แต่สำหรับนักข่าวที่แท้จริงของสำนักข่าวบางกอกทูเดย์ ยึดในจริยธรรมนักข่าว และจรรยาบรรณสื่อที่ดีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเผชิญกับห้วงวิกฤตใดๆก็ตาม
สำหรับปี 2566 คุณไพวงษ์ เตชะณรงค์ ประธานสำนักข่าวบางกอกทูเดย์ ได้กำชับกับผมให้ยังคงรักษาความเป็นสำนักข่าวบางกอกทูเดย์ที่มีคุณภาพ มีจริยธรรม เป็นสื่อสไตล์ “เล็กพริกขี้หนู” เหมือนตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
พร้อมกับให้ยืนยันว่า ภายใต้การสนับสนุนดูแลของคุณไพวงษ์ เตชะณรงค์ ในฐานะประธานสำนักข่าวบางกอกทูเดย์ และในการสนับสนุนของ “พญาไม้” คอลัมนิสต์อาวุโสแถวหน้าของเมืองไทย ที่เป็นหัวหน้าคณะคอลัมนิสต์ของบางกอกทูเดย์ทุกคน ยังคงยึดมั่นและสนับสนุนให้ สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ ยังคงคุณภาพเช่นเดิม โดยที่มี ภูวนารถ ณ สงขลา หรือ ผม เป็น บรรณาธิการบริหาร เพียงคนเดียวของสำนักข่าวบางกอกทูเดย์ เท่านั้น
ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ที่เป็นบรรณาธิการบริหารของสำนักข่าวบางกอกทูเดย์แต่อย่างใดทั้งสิ้น คุณไพวงษ์ฝากบอกด้วยว่าหากใครสงสัยก็ให้มาถามกับคนชื่อไพวงษ์ เตชะณรงค์ ได้
ผมต้องขอขอบคุณทั้งคุณไพวงษ์ และ “พญาไม้” ที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนให้ผมยังคงเป็นบรรณาธิการบริหารของสำนักข่าวบางกอกทูเดย์
โดยปัจจุบันในส่วนของข่าวการเมืองที่เข้มข้นสไตล์เล็กพริกขี้หนูแบบบางกอกทูเดย์ จะนำเสนอบนเว็บไซต์บางกอกทูเดย์ออนไลน์ : https://bangkoktodayonline.com/ โดยที่มีเพจ https://www.facebook.com/BangkokTodayFan ควบคู่กันไป ตามยุคสมัย New Media ในปัจจุบันนั่นเอง
ดังนั้นหากว่ามีกรณีใดๆก็ตามที่ก่อให้เกิดความสับสนสงสัย ก็ขอถือโอกาสนี้ชี้แจงให้ทราบทั่วกัน
และยืนยันว่าภายใต้จริยธรรมของความเป็น “บางกอกทูเดย์” จะไม่มีการไปเรียกร้องขอรับผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น หากแม้นว่ามีการไปเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ โดยที่ไม่ได้มีหนังสือเป็นทางการที่มีการลงนามจริงโดยตัวผมในฐานะบรรณาธิการบริหาร ทางบางกอกทูเดย์ ขอไม่รับผิดชอบหากมีกรณีใดๆเกิดขึ้น
เช่นเดียวกับ “นักข่าวของบางกอกทูเดย์” ภายใต้การดูแลของผม จะต้องมีบัตรนักข่าวที่ลงนามรับรองโดยบรรณาธิการบริหารคือผม และมีอายุบัตรครั้งละ 1 ปี เพื่อพิจารณาคัดเฟ้นนักข่าวคุณภาพที่มีจริยธรรมในการทำหน้าที่
และเนื่องจากคุณไพวงษ์และผมเห็นตรงกันในเรื่องของการก้าวผ่าน Disruption ดังนั้นจึงวางนโยบายในการทำงานในรูปแบบ Work from Home… Work from Anywhere เรื่องการเข้าออฟฟิศจึงไม่ใช่สรณะอีกต่อไป เพื่อจะได้ใช้เวลาในการไปค้นหาข้อมูลความจริงมานำเสนอให้กับผู้อ่าน แทนที่จะนั่งอยู่แต่ในออฟฟิศ
ซึ่งทีมคณะบริหารสำนักข่าวบางกอกทูเดย์ขอให้สัญญาว่า บนวิถีทางของสื่อที่ยึดมั่นจรรยาบรรณ ซึ่งต่อสู้บนวิถีทางเพื่อประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่อง เราจะยังคงทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งสืบไป
เช่นเดียวกับผมเองที่เริ่มทำอาชีพข่าวมาตั้งแต่ปี 2526 หรือเมื่อ 40 ปีที่แล้ว และเข้ามาร่วมชายคา “บางกอกทูเดย์” ตั้งแต่ปี 2550 ก็ขอรับภารกิจเจตนารมณ์ที่คุณไพวงษ์มอบหมายในครั้งนี้ว่าจะทำอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ภูวนารถ ณ สงขลา
บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวบางกอกทูเดย์
ขอขอบคุณทีมงานบางกอกทูเดย์ทุกท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์ผลงานอย่างมีคุณภาพครับ