24 ตุลาคม 2024

กสทช….อำนาจเสกได้! ทำเอาวงการสื่อสารโทรคมนาคมงงเป็นไก่ตาแตก!

0

กรณีที่ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อวันวาน ถึงกรณีที่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือ AIS รุกคืบเข้าซื้อกิจการ 3BB มูลค่ากว่า 32,000 ล้าน หวังผงาดขึ้นเป็นเบอร์ 1 ด้านบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต

ที่จริงดีลการเข้าซื้อกิจการ 3BB ของ AIS นั้น มีมาตั้งแต่กลางปีก่อนแล้ว แต่ในช่วงนั้นถนนทุกสายมัวไปให้ความสนใจกับดีลควบรวมธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมระหว่าง “ทรูและดีแทค” จนกลบกระแส AIS-3BB ซะมิด กระทั่ง กสทช.ปิดดีลควบรวมทรูดีแทคไปแบบ “ม้วนเดียวจบ” ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา กระแสดีลเข้าซื้อกิจการ 3BB จึงโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้ รักษาการเลขาธิการ กสทช. ระบุว่า กสทช.ยังไม่ได้อนุมัติ เพราะบริษัทยังส่งเอกสารไม่ครบ ทำเอาวงการสื่อสารโทรคมนาคมงงเป็นไก่ตาแตก ที่จู่ๆ กสทช.ลุกขึ้นมาตรวจสอบ และบอกว่า ตัวเองมีอำนาจที่จะพิจารณาดีลควบรวมกิจการที่ว่านี้ขึ้นมา

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ถึงขวบเดือน กสทช.ออกมายืนยัน นั่งยันว่า ตนเองไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาดีลควบรวมกิจการระหว่างทรู และดีแทค ทั้งที่เข้าประกาศควบรวมธุรกิจกันโครมๆ สะเทือนฟ้าสะเทือนดินขนาดนั้น กลับบอกว่าตัวเองไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติ ทำได้แค่เพียงนำมาตรการเฉพาะ หรือมาตรการเยียวยาผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะมาใช้บังคับก่อน-หลังการรวมธุรกิจเท่านั้น

ทำเอานักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัยเกือบทุกสถาบันในไทยและในโลกแทบจะลุกขึ้นมาแหกอก กสทช. และเผาตำราควบรวมกิจการทิ้งกันไปซะให้รู้แล้วรู้แร่ด

แล้วจู่ๆ กสทช.ลุกขึ้นมาฟ้อนเงี้ยวว่าตนเองมีอำนาจที่จะพิจารณาดีควบรวม หรือการ/ซื้อกิจการที่ว่านี้ตั้งแต่เมือไหร่? ในเมื่อกรณีนี้ก็เจริญรอยตามการควบรวมธุรกิจ หรือเข้าซื้อกิจการตามรอยทรูและดีแทคทุกกระเบียดนิ้ว! ยิ่งกรณีควบรวม “ทรูและดีแทค” นั่น เป็นการควบรวมธุรกิจและเข้าถือครองธุรกิจในบริการประเภทเดียวกันแท้ๆ ซึ่งไม่ว่าจะพิจารณาตำราควบรวมธุรกิจ เปิดอำนาจตามกฎหมาย กฎระเบียบและประกาศ กสทช.ข้อไหนๆ ทุกฝ่ายต่างก็ยืนยัน นั่งยันว่า เป็นกรณีที่ เข้าข่ายต้องดำเนินการตามประกาศกทช. เรื่องมาตรการป้องกันการผูกขาดในกิจการโทรคมนาคมปี 2549 ที่ กสทช.มีหน้าที่ต้องพิจารณาอนุมัติ-หรือไม่อนุมัติ

ที่ไหนได้ กสทช.กลับตีกรรเชียง เลี่ยงบาลี “หักดิบ”กฎหมายที่ตนเองมีอยู่ โดยมีมติเสียงข้างมากยืนยันว่า กสทช.ไม่มีอำนาจพิจารณาอนุมัติดีลควบรวมทรูและดีแทค เพราะถือเป็นการเข้าถือครองธุรกิจที่ไม่อยู่ในข่ายตามประกาศ กทช.ปี 2549 ที่ต้องขออนุมัติจากกสทช.

แต่พอ AIS ประกาศเข้าซื้อบริการ 3BB เพื่อหวังทะยานขึ้นเป็นเจ้าตลาดบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ซึ่งไม่ได้เป็นการผูกขาดธุรกิจหรือจะส่งผลให้ตลาดบรอดแบนด์ถูกผูกขาดอะไรไปแม้แต่น้อย เพราะไม่ได้เป็นกิจการที่ต้องใช้คลื่นความถี่หรือผูกขาดโดยใช้คลื่นความถี่ ใครอยากจะลุยกำถั่วธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์อย่างไร ก็สามารถจะไปขอใบอนุญาตประกอบกิจการจาก กสทช.ทุกเมื่อ

แต่กรณีดังกล่าวกสทช.กลับอ้างว่า มีอำนาจพิจารณาขึ้นมาทันที

คงต้องถามกลับไปยัง กสทช.ว่า ช่วยหาเหตุผลที่จะติดเบรกสั่งระงับดีลควบรวมกิจการ AIS-3BB มาสักข้อทีว่า มีอะไรบ้าง ทำไมจู่ ๆ กสทช. กลับจะมา “มีอำนาจ” ในการพิจารณาดีลซื้อกิจการหรือถือครองธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม หรือบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตขึ้นมาได้ จู่ๆอำนาจที่ว่า มันลอยมาจากไหนหรือ?

ทำไมกิจการสื่อสารโทรคมนาคมที่มีการแข่งขันน้อยราย และองค์กรกำกับทั่วทั้งโลกเขาไม่ยอมให้มีการควบรวมที่จะนำไปสู่การผูกขาด และถนนทุกสายต่างก็ยืนยัน นั่งยันว่า กรณีดังกล่าว กสทช.จะต้องไม่ปล่อยให้เกิดขึ้น แต่กสทช.กลับไฟเขียวเห็นชอบดีลควบรวมไปด้วยเหตุผลที่ทำเอาทุกฝ่ายอึ้งกิมกี่มาแล้ว

หากจะอ้างว่า การควบรวมธุรกิจหรือการรุกคืบเข้าเทคโอเวอร์ 3BB ของ AIS มีความแตกต่างกับดีลควบรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทค จึงทำให้ กสทช.มีอำนาจที่จะพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติได้หรือมีอำนาจพิจารณาขึ้นมาได้ ก็คงต้องย้อนถามท่านเลขาธิการ กสทช.และกสทช.ว่า “แตกต่างกันตรงไหนเอาปากกามาวง”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *