24 ตุลาคม 2024

การผลักดัน ร่างกฎกระทรวง ให้คนต่างด้าว 4 กลุ่ม ได้รับสิทธิซื้อที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ ภายในเขตกรุงเทพฯ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล หรืออยู่ภายในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง โดยมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท และต้องลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี

ซึ่งทำให้เกิดการต่อต้านจากสังคม ทั้งโดยการใช้วิธียกเหตุผลมาคัดค้าน และการใช้คำว่า “กฎหมายขายชาติ” ที่แสลงเสียดแทงใจรัฐบาล และบรรดาผู้สนับสนุน บรรดาไอโอ รวมทั้งบรรดาผู้ที่หวังประโยชน์

คนพวกนี้ไม่ฟังเหตุผลว่า การกำหนดเกณฑ์แค่ 40 ล้านบาท หรือแค่ 1,052,632 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น โดยเป็นแค่การซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซื้อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ พักเงินไว้ 3 ปี ได้ดอกเบี้ยงาม แต่กลับได้สิทธิ์ซื้อที่ดิน 1 ไร่ แล้ว

ทั้งๆที่ เงิน 40 ล้านบาทนั้น ไม่ใช่การลงทุนในระบบเศรษฐกิจจริงๆ ไม่ได้ตั้งโรงงาน ไม่ได้มีการจ้างงาน ไม่มีการผลิต ซึ่งก่อให้เกิดประเด็นสงสัยว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเจ้าสัวบางรายที่มีที่ดินเต็มมือ แล้วเจอพิษเศรษฐกิจ จนต้องการผ่องถ่ายขายที่ดิน แลกกับสภาพคล่องใช่หรือไม่?

เป็นการเอื้อประโยชน์เจ้าสัวหรือไม่?

ทำให้บรรดาผู้ปกป้องประยุทธ์ ที่ยากจะตอบคำถามเหล่านี้ เลือกที่จะใช้วิธีการแถไถว่า กฎกระทรวงนี้มีมาตั้งแต่ปี 2542 สมัย ชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ และมีการปรับปรุงในปี 2545 สมัย ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ทำไมไม่ด่าว่าเป็นกฎหมายขายชาติบ้าง

ทั้งๆที่จริงๆ ก็มีการต่อต้านมีการเรียกขานเป็นกฎหมายขายชาติมาก่อนแล้วเช่นกัน

เพราะสังคมไทยไม่เคยเห็นด้วยกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการขายที่ดิน

และยิ่งไม่เห็นด้วยกับวิธีการแถแก้ตัวว่า รัฐบาลก่อนโน้นก็เคยทำ ถ้าอ้างว่าสิ่งที่สังคมรับไม่ได้นั้นคนอื่นเคยทำมาก่อน แล้วทำตาม ทำบ้าง นอกจากเป็นคำแก้ตัวที่ไม่มีสมองแล้ว ยังสะท้อนถึงการไร้สติปัญญาทำในสิ่งที่ดีๆอีกด้วย

เพราะสังคมไทยเชื่อว่า หากมีความสามารถในการบริหาร ในการรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจได้จริงๆ ไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขที่สุ่มเสี่ยงในเรื่องการขายที่ดิน

ยังมีอีกสารพัดวิธีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในการที่จะจูงใจให้ต่างชาตินำเงินเข้ามาลงทุน

กรณีสิทธิประโยชน์ของ บีโอไอ กรณีสิทธิประโยชน์ของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ไม่ได้บอกอะไรกับทีมงานเศรษฐกิจของประยุทธ์เลยหรือว่า การให้สิทธิเรื่องที่ดิน ไม่ใช่แรงจูงใจที่สำคัญ เพราะหากผ่านบีโอไอ ผ่านอีอีซี ซึ่งเป็นการลงทุนที่แท้จริง ก็ได้สิทธิประโยชน์เรื่องที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว

ถ้าหากยังคิดว่าการขายที่ดินมีผลจูงใจการลงทุนได้จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องมีบีโอไอ ไม่ต้องมีอีอีซี

น่าเศร้าที่ทั้งๆที่รู้ว่า ประชาชนไม่เห็นด้วย จนสุดท้ายต้องยอมถอนกฎกระทรวงเจ้าปัญหาที่ถูกเรียกขานว่าขายชาติออกไปแล้ว ก็ยังมาเล่นคารมว่า ไม่ได้เป็นการถอนเรื่อง แค่เอากลับไปพิจารณาใหม่

แถม วิษณุ เครืองาม ยังบอกว่า ไม่สนใจเรื่องที่ถูกครหาว่าขายชาติ

โดนประชาชนค้านขนาดนี้แล้ว ลึกๆในใจยังมีความพยายามที่จะเอากลับมาอีกรอบอย่างนั้นหรือ?

ภูวนารถ ณ สงขลา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *