‘ไพศาล’ ชี้ เสนอยุบสภาต้องระบุเหตุ ตาม รธน. มาตรา103 ถ้าไม่มีเหตุ ระวังต้องรับกรรม
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เตรียมที่จะยุบสภา ขณะนี้ โดยมีใจความว่า จับตา ครม.จะให้ยุบสภาหรือไม่?
1. รัฐธรรมนูญบัญญัติว่า พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจอธิปไตย “โดยทางคณะรัฐมนตรี”
ดังนั้นในการตราพระราชกฤษฎีกา คณะรัฐมนตรี จึงต้องมีมติให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อขอรับพระบรมราชโองการให้ทรงตราพระราชกฤษฎีกา
2. การเสนอร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภา ต้อง “ระบุเหตุที่เสนอยุบสภา” ตามรัฐธรรมนูญมาตรา103
เหตุที่จะขอเสนอยุบสภา ต้องเป็นเหตุขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารกับสภาผู้แทนราษฎร
จะไปอ้างเหตุอื่นเช่น ตกปลาในอ่างไม่ทัน หรือ กกต. กำหนดการเลือกตั้งไม่ถูกใจ หรือศาลตัดสินให้รัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้ เพราะไม่ใช่เหตุตามรัฐธรรมนูญมาตรา103
3. นายวิษณุ เครืองาม รองนายก ได้แถลงแล้วว่า “การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมายังไม่มีการพิจารณาเรื่องยุบสภา”
คงเหลือการประชุมคณะรัฐมนตรีอีก 2 ครั้งคือ 14 และ 21 มีค. จะต้องติดตามดูกันว่าจะมีการเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาเรื่องเสนอยุบสภาหรือไม่!!!
ถ้ามีการเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ถ้ารัฐมนตรีข้างมากไม่เห็นด้วย ก็จะยุบสภาไม่ได้
ใครสนับสนุนโดยไม่มีเหตุตามมาตรา103 ก็ต้องรับกรรมต่อไป!!!!
4. ถ้าไม่มีการยุบสภา รทสช.อาจได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะในวันที่หมดกำหนดเวลาสังกัดพรรคเพื่อสมัคร สส.ในวันที่ 7 กพ.66 ตามประกาศ กกต.นั้น อดีต สส.และนักการเมืองยังสมัครเป็นสมาชิก รทสช.น้อยมาก อาจไม่ถึง 15 คนด้วยซ้ำไป
แคนดิเดทนายกของ รทสช.จึงมีความเสี่ยงสูงมากที่จะถูกเท!!!!
#นับถอยหลังการเลือกตั้ง