กกต.ขาประจำ
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ไม่เคยเลยที่จะมีเฉพาะแค่เสียงชื่นชมล้วนๆ
แต่ถ้าเป็นเสียงวิจารณ์เชิงลบล้วนๆ อันนี้บอกได้เลยว่า มีอย่างแน่นอนสำหรับกกต.ชุดนี้
ล่าสุดโดนไปเต็มๆกับการเดินทางไปดูงานต่างประเทศในช่วงจังหวะหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะต้องเลือกตั้งล่วงหน้าต่างประเทศ รวมทั้งจะต้องเลือกตั้งในประเทศอยู่รอมร่อแล้ว
หนักๆ 2 ประเด็นคือ ทำงานเหมือนไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า กับอีกประเด็นคือ ผลาญงบประมาณ
ยังไม่นับเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานที่หลายคนมองว่าเป็นองค์กรที่มีผลงานไม่คุ้มค่ากับภาษีประชาชนที่จ่ายให้
กกต.ชุดนี้ทั้ง 6 คนเข้ามาทำหน้าที่ในปี 2561 เพื่อรับงานจัดการเลือกตั้งในปี 2562 โดยเฉพาะ
เป็น กกต. ที่ถูกคัดสรรมาโดยกระบวนการของคสช. และรัฐบาลประยุทธ์ก่อนการเลือกตั้ง
เป็น กกต. ที่ได้รับการรับรองโดย 250 ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งของคสช.
เป็น กกต. ที่เข้ามาทำหน้าที่โดยอ้างการตีความรัฐธรรมนูญปี 60 ทั้งเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง การกำหนดให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 1 ใบหรือ 2 ใบ และการพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบใช้งบประมาณมากมายแต่สร้างความสับสนให้กับประชาชนผู้ไปใช้สิทธิ์
เป็น กกต. ที่ตีความสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งทำให้คนงงกันทั้งประเทศ มีแต่เสียงคัดค้าน
ล่าสุดก็เป็น กกต. ที่ตีความกฎหมายแล้วจะเอาตัวเลขต่างด้าวเข้ามารวมในการคำนวณคิดสูตรหา ส.ส.
นี่เพียงแค่คร่าวๆเท่านั้นสำหรับผลงานกกต.ชุดนี้
ฉะนั้นอย่าถามว่า ทำไม จึงกลายเป็นตำบลกระสุนตกอยู่ตลอดเวลา
รวมทั้งทำไมจึงถูกมองว่าสยบยอมให้กับอำนาจรัฐบาล จนดูเหมือนว่าขาดศักดิ์ศรีและขาดอิสระอย่างที่องค์กรอิสระพึงมี
แน่นอนทั้ง 6 กกต. คงเถียงคอเป็นเอ็น ว่าทุกอย่างทำตามกฎหมาย
ก็เหมือนกับใครบางคนที่อ้างว่าทำตามกฎหมายตลอดเวลา
แต่ปัญหาก็คือ ทั้งคนเหล่านั้นและกกต. ทำไมไม่ฉุกใจคิดบ้างว่า เพราะเหตุใดประชาชนจึงไม่ชื่นชม มีแต่เสียงคนด่าว่าและตำหนิตลอดมา
น่าคิดนะ ถ้าหากว่ายังมีวุฒิภาวะเพียงพอในการที่จะคิด
หนามกุหลาบ