24 ตุลาคม 2024

การเมืองใต้ชายคาทุนใหญ่

0

พรรคการเมืองกับระบบอุปถัมภ์ของกลุ่มทุนใหญ่ ยิ่งวันยิ่งกลายเป็นปัญหางูกินหาง ฝังรากสร้างต้นต้อความเหลื่อมล้ำไปทุกหย่อมหญ้า

นักการเมืองหน้าไหนอาสาจะแก้ปัญหานี้… บอกเลยชีวิตไม่ง่าย เพราะต้องอาศัยทั้งลูกบ้า และความกล้าชนิดที่วางอนาคตการเมืองเป็นเดิมพัน

ปฎิเสธไม่ได้ว่าการเมืองบ้านเราอาศัยทุนใหญ่ในการขับเคลื่อนมาตลอดหลายทศวรรษ ไม่ต้องดูที่ไหนไกล เอาแค่เรื่องใกล้ตัวทุกคนอย่าง ‘ค่าไฟ’ เราก็เห็นอยู่ว่าทุก ‘พรรคใหญ่’ ไม่ว่าจะอยู่ขั้วไหน ต่างก็เคยทำดีลพิเศษให้นายทุนใหญ่ได้ ‘ปั๊มเงิน’ จากการผูกขาดกิจการพลังงานของประเทศกันมาแล้วทั้งนั้น  ผลกำไรจากสัมปทานการผลิต ‘ไฟฟ้า’ และ ‘เชื้อเพลิง’ ที่ไม่ต้องยึดโยงกับการแข่งขันหรือภาวะตลาดใดๆ มันไม่ใช่เงินขี้ปะติ๋ว ล่าสุดนายทุนพลังงานหน้าใหม่รายหนึ่งก็ขึ้นแท่น รวยที่สุดในประเทศ แซงหน้าสองเจ้าสัวเก่าไปเรียบร้อย

ที่น่าเป็นห่วงคือ ‘ทุนหนุนหลังการเมือง’ ในประเทศเรามันไม่ต้องเลือกข้างเลือกขั้ว ดูว่าสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยทิ้งทวนอนุมัติเปิดโรงไฟฟ้าใหม่ 5,000 เมกะวัตต์ มาสมัยนี้รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา พอเห็นชื่อแต่งตั้งรัฐมนตรีพลังงาน ก็รู้ทันทีว่าเป็น ใบสั่งจากทุนใหญ่รายเดิม นั่นแหละ

รัฐบาลเปลี่ยนขั้วไปก็เท่านั้น ยังไงก็รับเงินจากกระเป๋าเดียวกัน แล้วเป็นไง ก่อนหมดสมัยรัฐบาลประยุทธ์ก็แอบทิ้งทวนอนุมัติสัญญาซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนแม่โขงใหม่ที่ยังไม่ได้สร้างอีก 3 แห่ง …เป็นภาระผูกพันของคนไทยทั้งชาติไปอีก 30 กว่าปี! ทั้งที่สถานการณ์ไฟสำรองของประเทศเรามีเกิน 50% สูงเกินมาตรฐานการสำรองไฟฟ้าของนานาอารยประเทศแบบไร้เหตุผล (มาตรฐานการสำรองไฟฟ้าของนานาชาติอยู่ที่ 15% เท่านั้น) 

การเมืองกำลังแรง อากาศกำลังร้อน เรื่องค่าไฟแพงกลายเป็นกระแสให้ได้เล่นกันทุกพรรค แต่ที่เห็นลุกมาสู้ชัดๆ ขัดขาทุนพลังงานไปโครมใหญ่ตั้งแต่ปีที่แล้วคือ กรณ์ จาติกวณิช จากพรรคชาติพัฒนากล้า ที่เขาออกมาโวยว่า “คนไทยกำลังโดนปล้น” มีการเรียกร้องให้ลดค่าการกลั่นน้ำมัน และให้ยกเลิกค่าเอฟทีไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน 3 เดือน เขาว่าปัญหาแบบนี้ถ้าระบบไม่ผูกขาด ไม่เอื้อทุนใหญ่ มันจะไม่มีทางเกิดขึ้น ถ้าแข่งขันเสรี ผู้บริโภคจะไม่โดนบีบคอให้ซื้อของแพง ประเทศเราต้องรื้อโครงสร้างพลังงานกันสักทีแล้ว ใข้หลักเสรีนิยมประชาธิปไตย เน้นการแข่งขัน เปิดโอกาสให้คนธรรมดามีส่วนร่วมเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ขายพลังงานกับภาครัฐได้อย่างเท่าเทียม

เรื่องการเมืองใต้ชายคาทุนใหญ่นี้ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทย ถ้าดูซีรีย์เกาหลีเราจะเห็นการแทรกแซงการเมืองของกลุ่มทุนหรือ ‘แชโบล’ ที่ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองเหมือนกัน และนักการเมืองก็ตอบแทนด้วยการผ่านร่างกฎหมาย หรือเอื้อประโยชน์ให้แชโบลบ้าง ส่วนที่ต่างคือผลลัพธ์ที่แชโบลสามารถกระจายความรวยไปในระบบเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ แต่ของเรา ‘รวยกระจุก’ อยู่แค่กลุ่มทุนไม่กี่ครอบครัวเท่านั้น

การเมืองไทยจะปราศจากทุนใหญ่ชักใยได้ มันต้องอาศัยลูกบ้าทางการเมือง มองไปสิวันนี้อยากจะแก้ปัญหาไหนก็โยงใยทุนใหญ่ทั้งนั้น ถ้าเป้าหมายคือไม่ต้องการให้ทุนใหญ่ไม่กี่รายครอบงำเศรษฐกิจประเทศ ก็ต้องเริ่มจากการตัดสัมพันธ์นายทุนที่ครอบงำพรรคการเมือง ต้องเชียร์พรรคเล็กที่กัดฟันทำการเมืองทางเลือกบ้าง

เศรษฐีที่ทำมาหากินจนร่ำรวยไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าจะใช้แต้มต่อในการเมืองมาผูกขาดความรวยไว้คนเดียว…อันนี้รับไม่ได้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *