24 ตุลาคม 2024

รำลึก 13 ปีสลายชุมนุม เตือน ถ้า ส.ว.เป็นปฏิปักษ์ขัดขวางประชาธิปไตย ให้ระวัง 27 ล้านเสียง ไม่ยอมแน่

0

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 (คปช.53) ร่วมกับยูดีดีนิวส์ และคนเสื้อแดง นำโดย นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตรักษาการประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะอดีตแกนนำ นปช. ร่วมจัดงานรำลึก “13 ปี เมษา-พฤษภา 53”

โดยได้มีการประกอบพิธีสงฆ์ จากนั้นตามด้วยการนำรายชื่อวีรชนเมษา-พฤษภา 53 อาทิ น.ส.วาสินี เทพปาน นายธนากร ปิยะผลดิเรก พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายอัฐชัย ชุมจันทร์ นายนรินทร์ ศรีชมภู น.ส.กมลเกด อัคฮาด ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ (อีซา) นางประจวบ เจริญทิม นายสุวัน ศรีรักษา มาทำการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่วีรชนผู้ล่วงลับ

นางธิดา ได้กล่าวรำลึกว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ซึ่ง 10 ปีมาแล้วที่เราไม่ได้มาจัดงานที่นี่ เรามองแล้วว่าน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้มารื้อฟื้นสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งหมดเวลาล่วงเลยมาจากปี’53-66 13 ปีมาแล้ว เหลืออายุความในการเอาคนผิดมาลงโทษอีก 7 ปี ดังนั้น การปราบปรามประชาชนน่าจะเป็นรุ่นสุดท้าย ไม่ต้องการให้ประชาชนรุ่นต่อไปถูกปราบปรามเหมือนภาพที่เห็นเมื่อครู่นี้

“ประวัติศาสตร์การเมืองไทยปราบปรามประชาชนตั้งแต่ปี 2516 2519 2535 และ 2552 2553 นี่เป็นช่วงเวลายกระดับปราบปรามประชาชน เราต้องการให้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่เกิดอีกต่อไป ดังนั้น จึงเป็นภารกิจของเราที่จำเป็นต้องสืบทอดเจตนารมณ์ที่ยังทำไม่สำเร็จ คือทวงความยุติธรรมปี’53 ไม่ให้ตายกลางถนนแบบนี้อีกต่อไป” นางธิดากล่าว

นางธิดา กล่าวว่า เวลาผ่านมาเนิ่นนาน เราไม่อยากให้มีแต่พิธีสงฆ์แล้วกล่าวรำลึก เมื่อเหตุการณ์ผ่านมาพอสมควร มีการเลือกตั้ง แม้การขับเคลื่อนของ นปช.ไม่ได้ดำรงอยู่ก็ตาม แต่คนเสื้อแดงยังอยู่และต้องการทวงความยุติธรรม ต้องการต่อสู้เช่นเดิม เราจึงจำเป็นต้องมีหน่วยหน่วยทำงาน ทำมาตั้งแต่ปี’65 ร่วมปีแล้ว เพื่อทำให้เกิดรายละเอียดว่าผู้ที่ตายทั้งหมดมีการไต่สวน ชันสูตรพลิกศพไปกี่ศพ

“อีก 17 ศพที่ไต่สวนแล้วบอกว่าไม่รู้กระสุนมาจากทางไหน ทั้งที่ก่อนหน้ารัฐประหารเพิ่งถูกตัดสินว่ากระสุนมาจากเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เดียวกัน เวลาเดียวกัน แต่หลังรัฐประหารไม่รู้ ยังมีอีก 12 ศพที่ถูกแช่แข็ง เราจึงจำเป็นต้องทำงานรวบรวมข้อมูล ซึ่งเราจะพิมพ์เป็นหนังสืออีกที ทุกศพเรามีรายละเอียดว่าตายที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาใด มีผลชันสูตรหรือไม่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐในโอกาสต่อไปได้ทำงาน ขณะที่ ดีเอสไอ ตำรวจ ก็ไม่ทำงาน กลายเป็นคดีความคนเสื้อแดง ในอดีตมีการนิรโทษกรรม 2 ฝ่าย 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลา 2519 ปี’35 ก็นิรโทษกรรม 2 ฝ่าย แต่ปี 2553 เราไม่ต้องการ เราต้องการเอาคนผิดมาลงโทษ เขาไม่จำเป็นต้องได้รับนิรโทษกรรม ป.ป.ช.บอกว่าเขาทำตามหน้าที่ แปลว่านักการเมือง 2 คนที่ต้องรับผิดชอบก็ลอยนวลพ้นผิด เมื่อไปศาลก็บอกว่าต้องไปศาลทหาร เราจึงรวบรวมปัญหา มีข้อเสนอ 8 ข้อสำหรับรัฐบาล เรารู้อยู่แล้วว่ารัฐบาลประชาธิปไตยต้องเกิดขึ้นแน่นอน เราจึงเตรียมไว้ก่อน จะได้ทำงานทันที” นางธิดากล่าว

นางธิดา ได้กล่าวด้วยว่า มีข้อเสนอ 8 ข้อ 3 ข้อแรกที่เรียกร้อง คือ

1.เราต้องการให้มีกรรมการตรวจสอบ ดูแล ฟื้นคดีกรณีปี 2553 ที่ถูกแช่แข็ง

2.แก้ไขกฎหมาย เพราะนักการเมืองถูกผลักให้ไปศาลคดีอาญานักการเมือง ซึ่งโทษต่างจากคดีพลเรือนมากมาย

“อธิบดีศาลอาญาโต้แย้งว่า คุณสุเทพและคุณอภิสิทธิ์ต้องขึ้นศาลอาญาทหารเช่นกัน เราจึงขอแก้ไขกฎหมาย ทหารถ้าทำคดี เกิดปัญหากับประชาชน ให้ขึ้นศาลพลเรือน นักการเมืองเช่นกัน” นางธิดากล่าว

3.ขอให้รับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เฉพาะกรณีปี’53

“เป็นการทำงานระหว่างประเทศ เราทำแล้วในปี’55 จนอัยการรับแล้ว เดินทางมาแล้ว แต่เรามีความคับข้อง ยังไม่ได้เซ็นให้เข้ามาสืบสวนได้ เราจึงเรียกร้องต่อรัฐบาลชุดนี้”

นางธิดากล่าวต่อว่า ส่วน 5 ข้อหลังเป็นการเรียกร้องให้ประเทศนี้ได้อำนาจประชาชนคืนมา เราเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แบบเดียวกับที่ นปช.ในยุค อ.ธิดาเคยเสนอ คือประชาชนเป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญ ตั้ง ส.ส.ร.มาร่าง เรายืนยันเหมือนเดิม ลบล้างผลพวงการทำรัฐประหาร เขียนรัฐธรรมนูญประชาชน

“การล้มล้างผลพวงรัฐประหารไม่ใช่เฉพาะในยุค คสช. ขอให้ถอยหลังไปด้วย มีกฎหมายหลายฉบับสมควรได้รับการแก้ไข เราทวงความยุติธรรมในอดีตเพื่อคนปัจจุบันและอนาคต” นางธิดากล่าว

นางธิดา กล่าวด้วยว่า เราต้องการให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ฝากไปยังรัฐบาลใหม่ เรื่อง MOU ด้วย ปฏิรูปกฎหมาย ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ลบล้างผลพวงรัฐประหาร

“ถ้าบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย อย่าหวังความยุติธรรมจะเกิดขึ้น ผู้มีอำนาจใช้ปืนกดหัวประชาชนมานานหลายปี มาบัดนี้ผลเลือกตั้งถือเป็นการต่อสู้ของประชาชน ที่ฝ่ายประชาธิปไตยได้เป็นรัฐบาลแน่นอน เราอยากรู้ว่า ส.ว.จะท้าทายอำนาจประชาชน เป็นปฏิปักษ์กับประชาชนไปถึงไหน คนเสื้อแดงอดทนมานานมากแล้ว 17 ปีแล้ว เราขอส่งสารถึง ส.ส.เป็นหน้าที่ของคุณ ส่วน ส.ว.ได้รับผลประโยชน์มานานแล้ว เราหวังว่าก่อนสิ้นสุด ถ้าไม่อยากอายไปจนชั่วลูกหลานก็ขอให้ปฏิบัติการครั้งสุดท้าย สนับสนุนรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย ให้ก้าวไกล เพื่อไทย ผ่านด่าน ส.ว.ให้ได้ ไม่เช่นนั้นประชาชนน่าจะขาดความอดทน วันนี้เป็นออร์เดิร์ฟ เราสัญญากับพี่น้องว่าเราจะทำงานต่อไปไม่เพียงจัดงานรำลึก” นางธิดากล่าว

นางธิดากล่าวว่า เฉพาะหน้าที่ที่ทำได้คือกวดขัน เร่งรัดจัดการคดีในอดีต และปัจจุบันที่ทำกับประชาชน ซึ่งทำได้ทันที

“สำหรับกรณี ICC ก็สามารถทำได้ทันที จะเพิ่มเติมจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว สุดท้ายคือออก พ.ร.บ.ให้ทหารและนักการเมืองที่ทำผิดกับประชาชนขึ้นศาลพลเรือนให้ได้ ขอให้เราทั้งหลายโปรดให้กำลังใจรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ และให้เตรียมความคิดที่ว่า อาจจะมีอุปสรรค ทั้งด้าน ส.ว. กกต. และด้านอื่นๆ กระทั่งสุดท้ายจะมีการทำรัฐประหารใหม่หรือไม่ก็ไม่ทราบ เพราะเราเชื่อใครไม่ได้ เราพยายามส่งไม้ต่อให้เยาวชน จะสู้ถึงที่สุด ให้เยาวชน คนเสื้อแดง ตระหนักว่าเราไม่ทิ้งกัน และมอบมรดกนี้ให้คนไทย เพื่อไม่ให้ประชาชนถูกฆ่าตายกลางถนนอีก ต่อจากนี้เราอาจจะมีนัดที่รัฐสภา แน่นอนคือวันที่ 19 พ.ค. ณ ที่แห่งนี้แล้วรวมพลให้ยิ่งใหญ่เฉกเช่นในอดีต ขอให้พวกเราส่งกำลังใจให้รัฐบาล ขอบคุณทุกคนที่มาที่นี่ เพราะเราคือคนต่อสู้ที่ตัวยังเป็นๆ อยู่” นางธิดากล่าว

นางธิดา กล่าวในช่วงท้ายสุดว่า นอกจากเสื้อแดงที่นี่ และคนที่ดูอยู่ที่บ้าน ตนยินดีเป็นอย่างยิ่ง แม้จะเป็นการจัดงานอย่างรวดเร็ว ก็มีคนมาร่วมงานมากพอสมควร จากนั้น ขอบคุณผู้ร่วมงานและสื่อมวลชน

“เสียงประชาชนจะดังขึ้นเรื่อยๆ จากนี้ เสียงประชาชนจะดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ นับจากนี้ไป เสียงที่ดังที่สุด ก็คือผลการเลือกตั้ง เป็นเสียงของประชาชน 27 ล้านคน จากผู้ออกเสียง 39 ล้านคน นั่นคือการต่อสู้อย่างสันติวิธีที่ยิ่งใหญ่ เพื่อพาพวกเราออกจากหุบเหวแห่งความชั่วร้าย มืดดำที่กดทับเราอยู่เป็นเวลานานนับสิบๆ ปี ต่อไปนี้คนเสื้อแดง และผู้รักความยุติธรรม คนรุ่นใหม่ จะสามารถใช้สิทธิ เสรีภาพ แสดงถึงอนาคตที่มีความหวัง ถือว่ากิจกรรมวันนี้ได้ผลสัมฤทธิ์พอควร ขอขอบพระคุณทุกท่าน ภาพรวมของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย นี่คือชัยชนะของประชาชนที่เราควรยินดีอย่างยิ่ง เพราะต่อไปนี้ การทวงความยุติธรรมและทวงอำนาจประชาชน เราจะเปล่งเสียงตามท้องถนนได้อีก ไม่มีอะไรมาปิดกั้นอีกต่อไป ขอให้เยาวชนรับไม้ต่อจากเรา แต่เราจะเดินไปด้วยกันกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ถ้า ส.ว.เป็นปฏิปักษ์ ขอให้แสดงพลัง 27 ล้านเสียง ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง คนเสื้อแดงจะออกมาแสดงพลังเต็มที่ เพื่อให้รัฐบาลประชาธิปไตยคงอยู่ต่อไป” นางธิดากล่าว ก่อนยุติกิจกรรมในเวลา 19.55 น.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *