24 ตุลาคม 2024

“พ่ายเพราะไม่ทันโซเชียล”

“ยกที่ ๑” ระเนระนาด หมดท่าใน “สนามเลือกตั้ง” -อย่างเหี้ยนเตียน

เป็น “บทเรียน” ที่ “พรรคเพื่อไทย” ต้องไม่พ่ายซ้ำ ใน “กลยุทธ์ทางอากาศ” ที่เขาเก่งลึกล้ำเป็นที่สุด..

อยู่ๆ ก็มี “ข่าวผ่านโซเชียล” เพื่อกินรวบ กินกลาง กินหาง ตลอดตัว ในการ “แบ่งโควตา” เก้าอี้ “รัฐมนตรี” ออกมาอย่างชัดเจน..โดย “พรรคเพื่อไทย” ไม่เคยมี “ข้อตกลง”  แต่ “โซเชียล” เล่นกันเป็นวรรคเป็นเวร

เป็นการมัดมือชก…”กะกินคะแนนทุกยก” ไม่ยอมหลงกล-ถูกเขาเล่น

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“สัญญาร่วมรัฐบาลในเอ็มโอยู”

เป็นการ “ระบุ” ฝ่ายเดียว ของ “พรรคก้าวไกล” ทำให้ “พรรคเพื่อไทย” เหมือนถูกเชือดดิ้นพล่าน-ดิ้นเป็นหมู

ซึ่ง “เอ็มโอยู” ต้องเป็นความคิด “ประสาน” เป็น “เนื้อเดียวกัน” ของ “๘ พรรคการเมือง” ที่ร่วมกัน “จัดตั้งรัฐบาล”

“การนิรโทษกรรม” เป็นเรื่องใหญ่ ..หากคนไม่เข้าใจ คิดว่า “พรรคเพื่อไทย” ยัดเอ็มโอยูนี้เข้ามา เพื่อช่วยให้ “ทักษิณ ชินวัตร” กลับประเทศไทย มีคนอยู่แล้ว “พร้อมที่จะตีรวน”

เรื่องนี้ถูกกระจายออกมา.. “พรรคเพื่อไทยมีแต่ถูกด่า” –พรรคเดียวล้วนๆ

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“อย่าปล่อยให้พรรคที่แพ้ออกมาหวด”

“๑๑๒” ถูกหยิบ ขึ้นมา “ขยุ้ม” รุมทึ้ง “พรรคก้าวไกล” ใช้เป็น “จุดโจมตี” เพื่อฟาดให้-เจ็บปวด

พรรคที่แพ้อย่าง “กระจัดกระเจิง” แตกพ่าย กันจนน้ำตาตก หยิบเรื่องนี้ “ขึ้นมาสับ”

เพราะเป็น “เรื่องเด่น” ที่สร้างคุณสมบัติ อย่างเหนือพรรคคู่แข่งทั้งหลาย..เป็นการส่งเสียง “คีย์เดียวกัน” กับ “ส.ว.ลากตั้ง” เพื่อใช้เป็น “จุดอ่อน” ดับอนาคต “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ไม่ให้เป็น-นายกรัฐมนตรี

ใช้เหตุผลออกมาระดับ.. “เพราะเขาหวังดับ” เส้นทางพิธา -เต็มที่

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“การเมืองแห่งความจริง”

ใน “สนามเลือกตั้ง” ย้ำเอาไว้ชัด ทุกอย่างต้องเดิน “ตามกรอบ” ที่ได้แจ้งเหตุผล-เอาไว้แล้วทุกสิ่ง

“๑๑๒” ต้องหยิบเอามา “อภิปรายกันในสภาฯ”

ไม่ใช่ “เดินหน้าลุยถั่ว” กันเต็มลูกสูบ เหมือนที่ “ก้าวไกล” ปราศรัย จนชนะหัวใจ “เยาวรุ่น” ที่อยากเห็น “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง” มาถึงตอนนี้ “ก้าวไกล” เสียงอ่อย ว่าเรื่องนี้ ต้อง “หยิบไปว่ากันในสภาฯ”

ใช้โซเชียลสร้างกระแส..”เหตุผลแท้ๆ “ต้องตามที่เพื่อไทย-เขาว่า

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“ความหวังที่ฝังหัวใจคนไทย”

“เงินคนแก่” ที่จะให้ “คนละ ๓,๐๐๐ บาท” เป็นอีกหนึ่งนโยบายกระตุ้น ทำให้เกิด “สึนามิ” จน “พรรคก้าวไกล” ชนะยกใหญ่

ยังไม่ทันที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ก้าวสู่ “ทำเนียบรัฐบาล” เป็น “นายกรัฐมนตรี” เสียงของลูกหลาน พ่อแม่ สามี ภรรยา อยากรู้ว่า “เงิน ๓,๐๐๐ บาท” ต่อเดือนที่จะจ่ายให้คนแก่นั้น “เอาเงินจากไหนมาจ่าย”

เป็นสิ่งที่ “ประชาชน” คาดไว้ว่าจะได้ หมายไว้ ปองไว้ ว่า “ก้าวไกล” ต้องเร่งนโยบายนี้ออกมาจ่าย ภายใน “๑๐๐ วัน” ตามที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ได้วางแพลนหาเสียงเอาไว้

เป็นหัวหอกคุมคลัง…”มีนะสตางค์” เพราะเขาอยาก-ให้จ่าย

“กะพรุนไฟ”

๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๖

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *