24 ตุลาคม 2024

‘พิธา’ หารือ สภาอุตสาหกรรมฯ ราบรื่น ‘เกรียงไกร’ เผยเบาใจขึ้นเรื่องการปรับขึ้นค่าแรง

0

จากที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้นำทีมเศรษฐกิจคนสำคัญ อาทิ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากูล เข้าหารือ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ซึ่งก็มี รองประธานสายงานต่างๆ อาทิ นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต นายสมโภชน์ อาหุนัย นายกรกฤช จุฬางกูร นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ นายเวทิต โชควัฒนา และ นายกฤษณ์ อิ่มแสง เลขาธิการ ส.อ.ท. ร่วมในคณะหารือด้วยนั้น

หลังเสร็จสิ้นการหารือ นายพิธา ให้สัมภาษณ์ ว่า ภาคเอกชนได้สอบถามนโยบายพรรคร่วมรัฐบาล ด้านพลังงาน กฎหมายที่อาจล้นเกิน การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น สำหรับเรื่องค่าแรงได้คุยกันในภาพรวม ซึ่งค่าแรงที่เหมาะสมทางพรรคได้อธิบายให้ ส.อ.ท.สบายใจว่าไม่ได้มองเพียงด้านเดียว ต้องช่วยผู้ประกอบการด้วย อาทิ การลดภาษีให้ธุรกิจเอสเอ็มอี การให้ธุรกิจหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าเป็นเวลา 2 ปี

“กรอบตัวเลขค่าแรง พรรคก้าวไกลยังคงไว้ที่ 450 บาท และต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งมีกรอบตัวเลขที่ต่างกัน รวมถึงหารือเครือข่ายแรงงาน ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยืนยันจะไม่ปรับขึ้นแบบกระชาก โดยเห็นตรงกันว่าต้องขึ้นตามอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ ประสิทธิภาพแรงงาน ซึ่งในช่วง 8-9 ปี การปรับขึ้นค่าแรง 1% จีดีพีโต 2% ประสิทธิภาพแรงงานขึ้น 3% ไม่อยากเห็นตัวเลขแบบนั้นอีก ทั้งนี้ จะใช้กลไกคณะกรรมการค่าจ้างไตรภาคีพิจารณา” นายพิธากล่าว

นายพิธากล่าวว่า ประเด็นโครงสร้างไฟฟ้ายังมีความเห็นไม่ตรงกัน เช่น กรณีของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ผ่านความเห็นชอบแผนผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 1 หมื่นเมกะวัตต์ อาจต้องชะลอออกไปก่อน รัฐบาลชุดใหม่จะเข้าไปพิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ จะเข้าไปตรวจสอบว่ามีปัญหาผูกขาดเพื่อลดปัญหาในระยะยาว ส่วนปริมาณสำรองไฟฟ้าต้องอยู่ในหลักคิดของความมั่นคงพลังงานและต้นทุนการผลิตที่สมดุล ไม่ใช่มองเฉพาะความมั่นคงด้านพลังงาน แต่ประชาชนต้องจ่ายเพิ่ม ส่วนตัวเลขที่เอกชนขอให้ลดค่าไฟฟ้า 70 สตางค์ต่อหน่วย ก็มีความเป็นไปได้ จากปัจจุบันเก็บอยู่ 4.70 บาทต่อหน่วย เพราะขณะนี้ราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ปรับลดลงมามาก

ด้าน นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. ระบุเบาใจเรื่องค่าแรงเพราะนายพิธารับฟังและจะนำไปหารือ เนื่องจากเคยเป็นสมาชิก ส.อ.ท. จึงเข้าใจผู้ประกอบการเป็นอย่างดี

สำหรับกรอบข้อเสนอเร่งด่วนที่ ส.อ.ท.เสนอต่อพรรคก้าวไกล คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.การแก้ปัญหาต้นทุนพลังงาน 2.การแก้ปัญหาแรงงาน 3.การส่งเสริมและช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 4.การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และ 5.การปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบเพื่อส่งเสริมความง่ายในการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business)

ทั้งนี้มีรายงานจาก ส.อ.ท. เปิดเผยว่า การหารือครั้งนี้ในมิติของรายละเอียด นโยบายของพรรคก้าวไกลสอดรับกับข้อเสนอ 5 ด้านของ ส.อ.ท. ส่วนประเด็นค่าแรงที่กังวลก็เชื่อว่าจะเป็นการทยอยปรับขึ้น เพราะนายพิธาเป็นผู้บริหาร มีลูกน้อง จึงเข้าใจการทำธุรกิจเป็นอย่าง ทำให้เมื่อทาง ส.อ.ท.มีการสรุปผลการหารือร่วมกัน พบว่า ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นายพิธาตอบคำตอบผู้บริหาร ส.อ.ท. ได้เป็นอย่างดี แสดงถึงความรอบรู้ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งตอบได้หมด แสดงให้เห็นว่าเตรียมตัวมาอย่างดี ถือเป็นคนรุ่นใหม่อายุน้อยแต่มีความสามารถ

สำหรับกรณีที่บางขั้วการเมืองมีการพูดถึงเรื่องประสบการณ์ยังน้อยไปหรือไม่ในการที่จะขึ้นมาเป็นนายกฯนั้น ทาง ส.อ.ท.เห็นว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีของไทยหลายคนก็ไม่มีประสบการณ์ ดังนั้น เรื่องนี้จึงไม่ใช่ปัญหา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *