ผู้นำฝ่ายค้าน
ผู้แทนเขตเท่ากัน ห่างกัน 10 ที่ ปาร์ตี้ลิสต์ ถ้าเป็นการเมืองปรกติ ไม่ใช่วาระสู้กับเผด็จการต่อเนื่อง
พรรคเพื่อไทย ก็ต้องขอจัดรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล
เพราะ สภาแห่งนี้มี 500 เสียง และทุกเสียงคือเสียงของประชาชน
ใครมีครึ่งจาก 500 ต่างหาก คือ รัฐบาล
เมื่อ เพื่อไทย ยอมรับใน 10 เก้าอี้ที่มากกว่า ทั้งๆที่รู้ว่า มีพันธมิตรมากกว่า สามารถจัดแข่งได้อย่างไม่ยากเย็น
พรรคก้าวไกล จะอะไรนักหนากับการให้ตำแหน่งประธานสภากับพรรคเพื่อไทย
นอกเสียจากว่า พรรคก้าวไกล ไม่อยากจะเป็นรัฐบาล
อีกทั้งการเป็นรัฐบาลของก้าวไกล จะยาวนานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนหนึ่งเดียวจากพรรคเพื่อไทย การปล่อยวางความหวาดระแวง ให้เป็นเรื่องของอนาคต
อะไรจะเกิดก็ต้องให้มันเกิด
พรรคก้าวไกล กับเรื่อง มาตรา112 คือเงื่อนไขที่หลายๆพรรค และวุฒิสภา มีความเห็นต่าง
ตำแหน่งประธานรัฐสภา เกี่ยวข้องโดยตรงกับสืบราชสันตติวงศ์ของสถาบันกษัตริย์
การปล่อยวางกับการมุ่งมั่น เพื่อตำแหน่งประธานรัฐสภา จึงเป็นปัญหากับการมองเข้ามายังพรรคก้าวไกลของสังคม
ส่วนอื่นของแผ่นดินไทย เป็นความละเอียดอ่อนที่พรรคก้าวไกลอาจจะมองไม่เห็นหรือมองเห็นก็สุดแล้วแต่
เชื่อว่า พรรคเพื่อไทย จะไม่ถอยให้กับก้าวไกลในเรื่องประธานรัฐสภา
เพราะถ้าตัดญาติขาดมิตรกันในกรณีนี้
พรรคเพื่อไทย จะได้ทั้งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และประธานสภา
และตำแหน่ง ของ ทิม พิธา คือ
ผู้นำฝ่ายค้าน
พญาไม้