‘สุธรรม’ มั่นใจ ‘เพื่อไทย’ มีวุฒิภาวะทางการเมืองพอ ตำแหน่ง‘ประธานสภา’ ไม่ทำให้ถอนตัว

นายสุธรรม แสงประทุม ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด สะท้อนว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองในทิศทางที่ถูกต้อง โดยให้ความไว้วางใจฝ่ายประชาธิปไตย 30 ล้านเสียงเป็นอย่างน้อย

ทั้งนี้ อยากให้ กกต. ประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการให้ชัดเจนเพื่อให้กลไกทางสภา ที่ประชาชนคาดหวังสามารถเดินหน้าต่อไป ทั้งการสรรหาตำแหน่งประธานสภาภายใน 15 วัน และชื่นชมฝ่ายประชาธิปไตยที่ฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยเชื่อว่า เมื่อกลไกที่ประชาชนมอบความไว้วางใจเดินต่อไปความเชื่อมั่นต่างๆ ทั้งการลงทุนความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุนของนานาประเทศจะดีขึ้น

ประเด็นตำแหน่งประธานสภา ที่ยังมีความเห็นต่างกันอยู่บ้างนั้น นายสุธรรม กล่าวว่า อยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยปรึกษาหารือกัน ซึ่งยังมีเวลาอีกประมาณ 15 วัน ยังทันที่จะหาคนที่เหมาะสมที่สุด ไม่ใช่ดีที่สุดสำหรับพรรคใดพรรคหนึ่ง อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างสันติ

“ตำแหน่งประธานสภา เป็นกลไกสำคัญในการจะต้องมาทำงาน ไม่อยากให้กลไกลนอกสภา มาพลิกผันเจตนาลวงจากการเลือกตั้ง เชื่อว่าทุกฝ่ายตกลงกันได้ในเรื่องตำแหน่งประธานสภา โดยเอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง” นายสุธรรม กล่าว

นายสุธรรม กล่าวด้วยว่า ขณะที่เอ็มโอยูก็เดินหน้าไปได้ 90% แล้วไม่อยากให้การแสดงความเห็นนอกระบบ มาก่อกวนหรือเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาชนฝ่าฟันใช้ปากกาเข้าคูหาสู้กับอำนาจมืด มากำจัดวงจรสืบทอดอำนาจอย่างมหัศจรรย์ที่สุด

“ไม่อยากให้สิ่งที่ประชาชนมอบหมายมาเสียของ ชนะตามครรลองระบอบประชาธิปไตย การแสดงเจตจำนงประชาธิปไตยที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ชีวิตตนเคยเห็น เช่น 14 ตุลา หรือพฤษภาทมิฬ ครั้งนี้เป็นการแสดงออกตามระบอบรัฐสภาที่เป็นเจตจำนงของประชาชน” นายสุธรรม กล่าว

ประเด็นปัญหาเก้าอี้ประธานสภา จะเป็นแรงกดดันถึงขั้นให้ พท.ถอนตัวจากการจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือไม่ นายสุธรรม กล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น เพราะเชื่อว่าพรรค พท.มีวุฒิภาวะ ทางการเมืองผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะประสบความสูญเสียที่หนัก การยึดอำนาจแต่ละครั้ง การทำลายพรรค หลายหนทุกรูปแบบทำให้เราทนทานและมีความเป็นผู้ใหญ่เพียงพอ จึงเชื่อว่าพรรค พท.จะรับรู้ความรู้สึก ความคาดหวังของประชาชนและเป็นผู้ใหญ่ที่จะนำพาเจตนารมณ์นี้ให้ประสบความสำเร็จได้ และเชื่อว่าฝ่ายประชาธิปไตยทุกพรรคมีความปรารถนาดีต่อบ้านเมืองและคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน

“ที่สำคัญที่สุดคือต้องการหาทางออกให้บ้านเมืองสงบสันติ ซึ่งอาจจะมีอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ และระหว่างกระบวนการอาจดูยุ่งเหยิงบ้าง แต่อยากให้เห็นผลสัมฤทธิ์ ผลสำเร็จเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมตนคาดหวังเช่นนั้น” นายสุธรรม กล่าว

ส่วนถ้าตกลงกันไม่ได้ แล้วมีแฟนคลับสนับสนุนให้พรรค พท. เป็นฝ่ายค้านนั้น นายสุธรรม กล่าวว่า อยากให้ตกลงกันได้ เพราะประชาชนตกลงมาให้เรา ไม่อยากให้เราทำเรื่องเล็กที่เสียเจตจำนงของประชาชน

สำหรับ นายสุธรรม ไม่ได้ดำรงตำแหน่ง ส.ส.มานาน เนื่องจากถูกตัดสิทธิทางการเมือง นับเป็นการกลับเข้ามาทำงานทางการเมืองอีกครั้งในรอบเกือบ 20 ปี