24 ตุลาคม 2024

‘พิธา-อุ๊งอิ๊ง-ชัชชาติ’ ร่วมงานบางกอกไพรด์ 2023 ชูผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมหลังได้รัฐบาลใหม่

0

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า และว่าที่ ส.ส. พรรคก้าวไกล เช่น นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ, นางสาวรักชนก ศรีนอก, นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ เข้าร่วมกิจกรรมเดินรณรงค์บางกอกไพรด์ 2023 โดยขบวนของพรรคก้าวไกลประกอบด้วยธงสีรุ้งขนาดใหญ่ แผ่นป้ายนโยบายเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ อาทิ สมรสเท่าเทียม, sex worker ถูกกฎหมาย, รับรองทุกเพศสภาพ, คำนำหน้านามตามสมัครใจ พร้อมทั้งมีบอร์ดให้ประชาชนร่วมโหวตนโยบายที่อยากเห็น โดยได้ดัดแปลงรถขายปลาหมึกและแผงลอตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ประชาสัมพันธ์นโยบายด้วย

ก่อนเริ่มงาน นายพิธาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ดีใจที่มีงาน Bangkok Pride เพราะเป็นการส่งสัญญาณให้ทั่วทั้งโลกเห็นว่า ความรักทุกรูปแบบในสังคมไทยเป็นไปได้ และเป็นการส่งสัญญาณว่าความรักจะชนะในหลายๆ เรื่องในสิ่งที่โลกไม่เคยคาดคิดถึงมาก่อน การเฉลิมฉลองในวันนี้ไม่ใช่เป็นแค่ขบวนพาเหรดหรือการแสดงสัญลักษณ์เท่านั้น แต่เมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ ตนก็พร้อมจะเข้าไปสนับสนุนสมรสเท่าเทียม การรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ และสวัสดิการเพื่อความเสมอภาคทางเพศ เพื่อให้การเฉลิมฉลอง ไม่ใช่แค่ Pride Month แต่คือ Pride Always จริงๆ เมื่อถึงตอนนั้นคนทั่วทั้งโลกก็จะมองประเทศไทยว่าเป็นพื้นที่เปิดเผยได้ ปลอดภัย และเป็นอิสระในการให้คนแสดงความเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

“หวังว่า World Pride ปี 2027-2028 ที่เคยจัดขึ้นที่ซิดนีย์ หรือวอชิงตัน ดี.ซี. จะเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองเอเชียเมืองแรก ผลพวงทางเศรษฐกิจ เงินสะพัด 2-3 หมื่นล้านที่ซิดนีย์ภายใน 17 วัน เมื่อมีนาคมที่ผ่านมา ก็จะเกิดขึ้นในประเทศไทยในที่สุด” นายพิธากล่าว

นายพิธา ยังได้กล่าวถึงกฎหมายทั้งสมรสเท่าเทียมและ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภา สามารถผลักดันต่อได้ทันที แม้แต่วิปรัฐบาลในขณะนั้นยังมีมติให้ผ่านทั้ง 2 กฎหมาย การผ่านทั้ง 2 กฎหมายไม่ใช่เรื่องการเลือกปฏิบัติทางเพศ แต่เป็นการให้สิทธิประชาชนว่าอยากใช้ชีวิตรักแบบไหน อยากมีความสัมพันธ์กันระดับที่เป็นคู่ชีวิตหรือคู่สมรส ถ้ากฎหมายผ่านทั้ง 2 ฉบับก็จะเป็นนิมิตหมายที่ดีในการสร้างสังคมใหม่ร่วมกัน พร้อมมั่นใจว่ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับจะผ่านได้ภายใน 100 วันแรกของการเป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน

จากนั้น นายพิธาได้เดินขบวน พร้อมกับ นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายชานันท์ ยอดหงษ์ ผู้รับผิดชอบนโยบายด้านอัตลักษณ์และความหลากหลาย พรรคเพื่อไทย รวมถึงผู้สมัคร ส.ส.และ ส.ก.พรรคเพื่อไทย และมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเดินขบวนใน Bangkok Pride Parade 2023 โดยขบวนเริ่มต้นบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เดินจากแยกปทุมวันไปบนถนนพระราม 1 จนถึงแยกราชประสงค์บริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยหาเสียงนโยบายสมรสเท่าเทียม และพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคได้พูดคุยกันแล้วจึงเชื่อว่า เมื่อเปิดสภาแล้ว เราจะช่วยกันนำร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมเข้าพิจารณาในสภาทันทีที่เปิด เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นทำงานของรัฐบาลร่วมกันต่อไป

“ดิฉันมองว่าทุกคนมีสิทธิ มีศักดิ์ศรีในตัวเอง มีชีวิตของตัวเอง ที่สามารถเลือกได้ว่าเราจะไปทางไหน เพศต้องไม่ใช่ข้อจำกัด หรือตัวกำหนดในการใช้ชีวิตอีกต่อไป”

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ การออกแถลงการณ์พรรคเพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมหลายหลายเพื่อยืนยันต่อสาธารชนว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเป็นหมุดหมายผลักดันส่งเสริมให้มีกฎหมายรับรองสิทธิเพื่อความเท่าเทียมของคู่รักทุกเพศ ดังนั้น เมื่อเปิดสภา พรรคเพื่อไทยจะผลักดันร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมเข้าสู่การพิจารณาทันที

หลังจบขบวน นายพิธา ขึ้นกล่าวกับผู้มาร่วมกิจกรรมว่า ถึงพี่น้องประชาชนทั้งหลาย การที่พวกเรามารวมตัวกันที่นี่คือการส่งสัญญาณว่าประเทศของเราขับเคลื่อนด้วยความรัก ไม่ใช่ความกลัว เรากำลังส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่าความหลากหลายคือจุดแข็งไม่ใช่จุดอ่อน เรากำลังส่งสัญญาณไปว่าความรักคือความรัก และความรักต้องชนะ

“เมื่อผมและคุณอุ๊งอิ๊ง พรรคเพื่อไทย และอีก 6 พรรคการเมืองที่เหลือจัดตั้งรัฐบาลได้เมื่อไร สมรสเท่าเทียมผ่านแน่นอน รวมถึงการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ สวัสดิการถ้วนหน้าสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเพศอะไร เชื้อชาติอะไร หรือศาสนาอะไร ประเทศของเรายินดีต้อนรับทุกคน อย่างปลอดภัย อย่างมีอิสระ พวกคุณทุกคนเป็นตัวของตัวเองได้แน่นอน”

นายพิธา กล่าวว่า พอกันทีกับการที่คนที่รักในอาชีพของตัวเอง แต่ไม่สามารถทำงานได้ คนที่รักความเป็นครูแต่ไม่สามารถเป็นครูได้เพียงเพราะเพศสภาพกับเพศกำเนิดไม่ตรงกัน พอกันทีกับสังคมที่คนต้องการสร้างอนาคตร่วมกันสร้างชีวิตร่วมกันแต่พวกเขาทำไม่ได้ เพียงแค่เพราะความรักของเขาโดนบอกว่าไม่เหมือนกับคนทั่วไป พอกันทีกับบทสนทนาอันน่ากระอักกระอ่วนใจ กับผู้ปกครองกับพ่อแม่ของตัวเองบนโต๊ะอาหารเพียงเพราะเสียงข้างในของเขาไม่ตรงกับเสียงที่ออกมาจากปากของเขา แล้ววันนั้น วันที่เราจะส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่า Pride Month ไม่ใช่เป็นแค่เดือน ไม่ใช่เป็นแค่การเดินพาเหรด แต่เป็นคุณค่าที่พวกเราเชื่อร่วมกันทุกเดือน

“เหลืออีกนิดเดียวเท่านั้น ตั้งรัฐบาลได้เมื่อไร เราจะเอาเรื่องนี้เข้าวาระการประชุม ครม. และการประชุมสภาฯ ผมไม่แน่ใจว่ามันจะราบรื่นแค่ไหน แต่ผมขอสัญญากับทุกคนในที่นี้ว่ามันจะคุ้มค่าแน่นอน แล้วเมื่อถึงเวลานั้น เรามาเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน เปลี่ยนเอเชียไปด้วยกัน เปลี่ยนโลกนี้ไปด้วยกัน” นายพิธากล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *