TIA จับมือ ธปท.ขอนแก่น เตือนภัยในตลาดเงินตลาดทุน เดินหน้าแผน ‘ตั้งศูนย์ฟ้องคดีแบบกลุ่ม-Class Action’
โครงการ ‘การจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม-Class Action’ จัดสัมมนาสัญจร ครั้งที่ 1/3 จังหวัดขอนแก่น ‘ภัยในตลาดเงิน และ ภัยในตลาดทุน” เผยข่าวดีสำหรับทนายความมืออาชีพ
ปัจจุบันแม้โลกออนไลน์ช่วยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว ให้กับผู้คน แต่ก็มาพร้อมกับภัยที่จู่โจมสังคมได้อย่างรวดเร็ว และขณะเดียวกันก็พบว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ขยายเป็นวงกว้างในทุกวงสังคม มูลค่าความเสียหายก็หนักหน่วงด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ 2 หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่กำกับดูแลตลาดเงิน และตลาดทุน คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงมีมาตรการการให้คำแนะนำ การเตือนภัยไปยังประชาชนในหลากหลายรูปแบบเสมอมา อย่างไรก็ตาม พบว่าพัฒนาการของมิจฉาชีพ ทั้งในด้านการใช้เทคโนโลยี และเทคนิคขั้นตอนของการสื่อสารระหว่างบุคคลซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) และ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น จึงได้ร่วมมือผนึกการทำงาน ในเรื่องการแชร์ประสบการณ์ เล่าเรื่องข้อเตือนใจภัยในตลาดเงิน ภัยในตลาดทุน ให้กับกลุ่มผู้นำทางสังคมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ได้แก่ กลุ่มบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม กลุ่มทนายความ กลุ่มนักลงทุน กลุ่มโบรกเกอร์ กลุ่มนักวิชาการด้านกฎหมาย กลุ่มข้าราชการปกครอง และกลุ่มสื่อมวลชน ในวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ณ สำนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น โดยมี นางพรนิภา สินโพธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ดร.ภูมิศิริ ดำรงวุฒิ รองคณบดีฝ่ายวิรัชกิจและนิตินวัตกรรม คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นวิทยากร
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ขอนแก่น เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ จำนวนประชากรกว่า 1.8 ล้านคน จาก 26 อำเภอ เป็นเมืองที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากจุดเด่นของจุดที่ตั้ง ที่สามารถกระจายตัวเป็นรัศมีโดยรอบไปยัง 20 จังหวัดในภูมิภาคนี้
“กรณีของภัยจากโลกออนไลน์ก็มาพร้อมกับความเจริญทางเทคโนโลยี ดังนั้น หน่วยราชการจึงมีหน้าที่ที่จะต้องบอกกล่าวเตือนภัย และเป็นที่พึงของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนกับภัยในทุกกรณี โดยเฉพาะภัยทางการเงิน และการลุงทน ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลากับทุกคน”
ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น กล่าวเสริมว่า เทคโนโลยีใหม่ทั้งการซื้อขายและการชำระเงินแบบ Digital ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงใหม่ ๆ จึงถือเป็นพันธกิจร่วมกันของภาครัฐและเอกชน ที่จะให้ความรู้กับประชาชนเพื่อรู้ทัน และลดอันตรายจากภัยดังกล่าว
นายยิ่งยง นิลเสนา นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย กล่าวเพิ่มเติมในประเด็นภัยในตลาดทุนที่จำเป็นต้องสื่อสาร เล่า แชร์ประสบการณ์ ว่า การลงทุนในหลักทรัพย์ นอกเหนือจากการต้องบริหารผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้แล้วนั้น หากเกิดกรณีถูกฉ้อฉล ถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยเยียวยาผู้ลงทุน คือ การเตรียมจัดตั้ง “ศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ในการฟ้องคดีแบบกลุ่ม-Class Action” ซึ่งสมาคมฯ กำลังดำเนินการ จึงมีการจัดสัมมนาสัญจร ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างการรับรู้ร่วมกันของภัยในตลาดเงินและภัยในตลาดทุน ในจังหวัดที่มีสำนักงานตั้งอยู่ เริ่มที่ขอนแก่น ครั้งต่อไป คือที่ เชียงใหม่ และ สงขลา
“นอกจากนี้ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ยังร่วมกับ สภาทนายความแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการจัดหลักสูตรให้กับทนายความที่มีความสนใจในสายวิชาชีพนี้อีกด้วย”
ติดตามกิจกรรมและภารกิจของสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ได้ที่ http://www.thaiinvestors.com, FB @TIA.society