มารยาทที่ถูกถาม?
เรื่องของมารยาททางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเมืองในประเทศ หรือ การเมืองระหว่างประเทศ ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญ
ไร้มารยาทการเมืองในประเทศ คือการฟ้องให้ผู้คนในประเทศ รู้ซึ้งถึงธาตุแท้ว่าเป็นคนเยี่ยงไร
กับบางคน จึงอาจคิดว่า ก็เพียงแค่อาจจะอาย ไร้สิ้นราคาเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น
แต่ในยุคสมัยปัจจุบัน การสื่อสารรวดเร็ว เรื่องแบบนี้ก็ใช่ว่าจะปิดกันมิด โลกภายนอกก็รับรู้ได้เช่นกัน
แต่หากเป็นมารยาททางการเมืองระหว่างประเทศ ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากกว่า
วันนี้มารยาทการเมืองระหว่างประเทศ มารยาทความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ยังโชคดีที่ต่างประเทศไม่ได้เหมารวมว่าเป็นมารยาทของประเทศไทย
แต่รู้ว่าเป็นเรื่องการไม่รู้จักมารยาทของรัฐบาลรักษาการ
ดอน ปรมัตถ์วินัย และ ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือเป้าที่ผู้นำชาติอาเซียนเพ่งเล็ง
ในแง่การเป็นรัฐบาลรักษาการถือว่าไม่สมควรแล้ว ในแง่ของการไม่ได้เป็นประธานกลุ่มประเทศอาเซียนแล้ว ยิ่งต้องถือว่าไม่สมควรมากยิ่งกว่า
มิน อ่อง ลาย ทำรัฐประหารยึดอำนาจตั้งแต่ต้นปี 2564 อ้างว่าการเลือกตั้งที่พรรคของอองซาน ซูจี ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย เป็นเพราะมีการทุจริตเลือกตั้ง
เป็นตรรกะในการอ้างทำรัฐประหารเพราะทุจริตคอรัปชั่น เช่นเดียวกับคสช.ของคนชื่อประยุทธ์
2 ปีที่มิน อ่อง ลาย และ ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในอำนาจ ภาพที่สังคมเห็นคือการมีมุมมองที่สอดคล้องต้องกัน จากฐานความคิด ข้ออ้าง และที่มาเฉกเช่นเดียวกัน
เป็น 2 ปี ที่ประยุทธ์ไม่แตะต้องประเด็น มิน อ่อง ลาย ที่ทำรัฐประหารและปราบปรามประชาชน
ซ้ำยังเป็นช่วงที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร ไม่แม้แต่จะคว่ำบาตรตามที่มีประเทศสมาชิกเรียกร้อง
แต่ในวันที่เป็นแค่รัฐบาลรักษาการ และเป็นผู้พ่ายแพ้จากการเลือกตั้งของประชาชนแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดให้กับขั้วประชาธิปไตย เฉกเช่นเดียวกัน
ประยุทธ์กลับกระตือรือร้นยกประเด็นเมียนมาร์ขึ้นมา
ดอนกลับทำในสิ่งที่รัฐบาลรักษาการ รัฐมนตรีรักษาการ ไม่พึงกระทำ
ผลก็คือประเทศอาเซียนจำนวนมากตบหน้าด้วยการปฏิเสธที่จะมาร่วมหารือ หรือฟังข้อมูลใดๆจากรัฐบาลมิน อ่อง ลาย
คำถามสำคัญก็คือ การที่ทั้งประยุทธ์และดอน ทำหน้าที่ประหนึ่งเป็นโฆษก ให้รัฐบาลมิน อ่อง ลาย ชี้แจง เป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วจริงหรือ
เป็นเรื่องที่กระทำโดยคำนึงถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทยหรือไม่
อัคคี กัมปนาท