‘สูตรตั้งรัฐบาล’ ที่เดิมพันอนาคต ‘เพื่อไทย’

แง่คิดจาก ไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า การปล่อยข่าวทางการเมืองที่ว่อนๆกันอยู่ในขณะนี้ จริงมั่งลวงมั่ง?

อย่างเรื่อง พีระพันธ์จะเป็นนายก และพลเอกประวิตร จะลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ไพศาลบอกว่าอันนี้เป็นข่าวลวง!!!

แต่ก็ไม่ได้ฟันธงเกี่ยวกับเรื่องสูตรในการจัดตั้งรัฐบาล ว่าจะจริง หรือ ลวง

ในมุมมองของไพศาล การจัดรัฐบาล มีหลายสูตร โดยสูตร 1 มี ก้าวไกลเป็นแกนนำ มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเด็ดขาด แต่เพื่อไทยจะคุมดุล คุมกระทรวงเกรด A ทางด้านเศรษฐกิจทั้งหมด

อันนี้แม้ว่าจะน่าคิด แต่จริงๆต้องถือเป็นสูตรตามครรลองที่สอดคล้องกับผลการเลือกตั้ง

แต่อย่างว่า การเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับตามใจแป๊ะ ไพศาลเคยบอกไว้ก่อนหน้าแล้วว่า ไสยศาสตร์ทางกฎหมายเยอะมาก

ขณะที่รัฐบาลสูตร 2 ไพศาลมองว่า เรื่องที่เพื่อไทยจะเป็นแกน กำลังกลายพันธุ์ โดย ประวิตร หรือ เศรษฐา เป็นนายกฯ แต่จะมี ภูมิใจไทย คุมดุล และเป็นการคุมดุลที่มีพลังอย่างยิ่ง

ให้เหตุผลว่า ขณะนี้ ภูมิใจไทยไม่ได้มี ส.ส.แค่ 70 คน แต่มี ส.ส. จากพรรครัฐบาลเดิมมาสนับสนุน ทำให้มีเสียงประมาณ 100 คนแล้ว

เท่ากับว่าจะมีเสียงมากเป็นลำดับที่ 2 ในรัฐบาลสูตรที่ 2 คือเป็นรองจากเพื่อไทยที่มี 141 เสียง

แต่ถ้าภูมิใจไทยไปรวมกับ พปชร.-ชทพ.ก็จะมีเสียงมากกว่าพท. ซึ่งอาจพลิกสถานการณ์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้!!!

พร้อมกับสรุปว่า วันใดที่ไม่มีก้าวไกลร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะกลายเป็นพรรคที่เดินหน้าไม่ได้ถอยหลังไม่ได้!!!!

ทั้งหมดเป็นการวิเคราะห์ ที่ไม่ได้ฟันธง เพราะตบท้ายเอาไว้ว่า อย่ามองข้าม“เรื่องบังเอิญ”ก็แล้วกัน!!!

จริงไม่จริง แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนให้พรรคเพื่อไทย และกองเชียร์ กับ นางแบกทั้งหลาย ควรระวังไว้เช่นกันว่า จะติดกับดักพวกสืบทอดอำนาจเผด็จการหรือไม่

ถ้าเพื่อไทย ไม่ย่ามใจ หรือ เหลิงในแรงปั่นแรงเชียร์ว่าแพ้ก้าวไกลแค่ 10 เสียงเท่านั้น อย่าไปแคร์ก้าวไกลให้มากเกินไป

ไม่รู้สินะ สุดท้ายในครั้งนี้ อาจจะแพ้ทั้งก้าวไกลและเพื่อไทยในเกมรัฐประหารซ้ำผ่านการใช้กติการัฐธรรมนูญตามใจแป๊ะ

แต่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่รู้ว่า New Voter จะคิดอย่างไรกับเพื่อไทย สำหรับผลการจัดตั้งรัฐบาลที่จะออกมาในครั้งนี้

กรศิริ