‘ไพศาล’ จัดเต็ม! กกต.มุ่งสอย ‘พิธา’ ไม่นำพาต่อคำพิพากษาทุกศาลก่อนหน้า
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ถึงกรณี กกต.รีบส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้น ITV มีใจความว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับลูกกกต. โดยยังไม่รับพิจารณาคำร้อง สอยพิธา
~กกต.ลงมติ ส่งศาลรัฐธรรมนูญให้สอยคุณพิธา และขอให้สั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างพิจารณา เมื่อเช้าวานนี้ และรีบส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อบ่ายวานนี้ ตามที่มีการปูดข่าวไว้ล่วงหน้าตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วโป๊ะเชะ!
ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่รับพิจารณา เพราะมีวาระประชุมปกติเต็มวาระอยู่ก่อนแล้ว จึงให้เลื่อนไปประชุมในคราวหน้า ดังนั้น นายพิธาจึงยังไม่ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ในขณะประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้!!!
~พรรคก้าวไกลมีสิทธิ์ที่จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณาก่อนมีคำสั่งรับคดีได้ เช่น
-คัดค้านว่าความเห็นของ กกต.ในการส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ คือไม่แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ไม่ให้โอกาสในการชี้แจงแสดงหลักฐานหักล้างข้อกล่าวหา
–กกต.ทราบดีอยู่แล้วว่า itv ไม่ใช่สื่อตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด และ itv เอง ก็ไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อ เพราะไม่มีสัญญาณวิทยุโทรทัศน์จึงประกอบธุรกิจไม่ได้มา 20 ปีแล้ว และไม่เคยมีรายได้จากการทำธุรกิจสื่อในระยะเวลาดังกล่าวเลยตามเอกสารที่มีอยู่แล้ว
–กกต.ทราบดีอยู่แล้วว่า นายพิธาไม่ได้ถือหุ้น itv ในฐานะส่วนตัว แต่ถือหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลที่ส่งมาแล้ว และได้โอนมรดกนี้แก่ทายาทไปแล้ว
–กกต.ทราบดีอยู่แล้วว่า ศาลฎีกาได้ตัดสินเป็นบรรทัดฐานไว้เป็นจำนวนมากว่า การถือหุ้นสื่อถ้ามีจำนวนน้อย ไม่มีอิทธิพลต่อการเสนอข่าวก็ไม่ขาดคุณสมบัติ แต่ไม่นำพาต่อคำพิพากษาศาลสูงสุด
ทั้งกกต.ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยคดีลักษณะนี้โดยบรรทัดฐานเดียวกันกับศาลฎีกามาหลายคดีแล้ว แต่ก็มิได้นำพาเคารพ ยอมรับความผูกพันต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
–กกต.ทราบดีอยู่แล้วว่าผู้บริหาร itv ได้แถลงต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่าไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อ แต่มีการทำรายงานการประชุมเท็จโดยมีผู้บงการเพื่อใช้ประโยชน์ในทางคดีนี้ ซึ่งเป็นข่าวที่ทราบโดยทั่วไป แต่กกต.ก็ไม่นำพา
การคัดค้านนี้ อาจขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องหรือยกคำร้องเสียเลยก็ได้!!!!
จากนี้ไป กกต.คงต้องผวา เพราะว่าอาจถูกฟ้องคดีอาญา และอาจถูกศาลพิพากษาจำคุกได้ ควรจะเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้บ้าง อย่าให้เหมือนอดีตกกต.บางคณะ
เสียดายคุณฉัตรชัย จันทร์พรายศรี อดีตกกต.ที่มาจากศาลฎีกา ซึ่งท่านเป็นศิษย์ร่วมสำนักธรรมนิติกับผมมาแต่ก่อน ท่านเกษียณอายุไปเสียก่อน มิฉะนั้นแล้วกกต.ก็คงไม่ต้องเสี่ยงกันขนาดนี้
อย่าเข้าใจผิดไปด่าท่านฉัตรชัยเลย
ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และท่านไม่ก่อกรรมทำชั่วกับใคร อันเป็นอัธยาศัยของท่านมาตั้งแต่ร่วมสำนักกันมาเมื่อเกือบ 50 ปีมาแล้ว
และในเวลาต่อมา นายไพศาล โพสต์เพิ่มเติมว่า ด่วน ข้อมูลชัดออกมาแล้วนะครับว่า ในจำนวน กกต.ที่เหลืออยู่ 5 คน เพราะท่านฉัตรชัย จันทร์พรายศรี จากศาลฎีกาเกษียณไปก่อนแล้ว
ในจำนวน 5 คนนี้ ยังมีท่านปกรณ์ ซึ่งเป็นกกต.ที่มาจากศาลฎีกา ไม่เห็นด้วยกับ กกต.อีก4คน
ดังนั้นกรุณาอย่าเอา ท่าน กกต.ปกรณ์จากศาลฎีกาไปเกี่ยวข้องกับการด่าว่าหรือการดำเนินคดีเลย จะเป็นบาปและผิดตัว
เป็นอันว่ามติ กกต.นั้น เป็นมติจากกกต.เพียง 4 คนที่ไม่ได้มาจากศาลฎีกา
เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญก็คงพิจารณาองค์ประกอบของ กกต.ที่วินิจฉัยเรื่องนี้ด้วยว่า ทำไม กกต.ผู้ทรงความรู้ทางกฎหมายจากศาลฎีกาจึงไม่เห็นด้วย
ที่มา : https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/833891131430164, https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/833906171428660