‘เพื่อไทย’ เสี่ยงสูญพันธุ์

นี่คือพิษร้ายและความอุบาทว์ของกติกา รวมทั้งเป็นทฤษฎีสมคบคิด ที่ชัดเจนที่สุด ว่าคนพวกนี้ ไม่ว่าใครก็ตาม หน้าไหนก็ตาม ซึ่งสังคมขณะนี้รู้กันดีอยู่แล้วว่ามีใครบ้างที่ไม่เคยยึดโยงกับมติของประชาชน

แต่ละสมการที่ออกมา ล้วนแล้วแต่เป็นสมการที่ไม่เคยนึกถึงเสียงของประชาชนที่แท้จริงเลย

ไม่ว่าสมการของกลุ่ม 250 สว.ส่วนใหญ่ และสมการของนักการเมือง พรรคการเมือง ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้มีพรรคก้าวไกล

ทั้งๆที่ก้าวไกลมี 151 เสียง บวกกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาล กลายเป็น 312 เสียง ก็ยังตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ

“มันเกินไปไหม?” เป็นคำถามที่ประชาชนที่ออกไปเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ล้วนสงสัย

พรรคการเมืองที่มีแค่ 70 เสียง มีแค่ 40 เสียง มีแค่ 36 เสียง 3 พรรครวมกันแล้วยังไม่เท่ากับเสียงของพรรคก้าวไกลที่ได้จากประชาชนเพียงแค่พรรคเดียว

แต่กลับเกิดสมการให้ 3 พรรคนี้มาเป็นตัวแปร มาเป็นตัวกำหนดเงื่อนไข ให้ขจัดพรรคก้าวไกลที่ประชาชน 14 เสียงเลือกมา

โดยไม่แคร์เสียงของประชาชน ไม่แคร์ความรู้สึกของประชาชน

312 เสียงตั้งรัฐบาลไม่ได้ ต้องให้ 146 เสียงมาชี้นิ้วมาสั่งการ ให้ไล่ 151 เสียงจากประชาชนออกไป

พรรคเพื่อไทยกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่มีความเสี่ยงสูงมาก

ถ้าแค่เริ่มต้นยังต้องยอมหงอขนาดนี้ เดินหน้าไปจะถูกเหยียบหัวสักแค่ไหน

กระทรวงคมนาคมก็ต้องเสร็จภูมิใจไทยใช่ไหม? ทั้งๆที่ รู้ทั้งรู้ ว่าประชาชนรับไม่ได้

กัญชาเสรีก็จะได้ออกมาทำร้ายสังคมไทยต่อไปใช่หรือไม่?

ถ้าพรรคเพื่อไทยยึดมั่นในประชาธิปไตยที่แท้จริง จับมือให้มั่น เป็น 312 เสียงที่ยอมเป็นพรรคฝ่ายค้าน เชื่อเถอะว่าประชาชนเข้าใจ

แล้วปล่อยให้กลุ่มที่ต้องการสืบทอดอำนาจ กลุ่มกระหายอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง จัดตั้งรัฐบาลไปโดยมีสมการสว.เข้ามาอุ้ม

แล้วดูซิว่า “รัฐบาลของสว.” จะไปได้สักกี่น้ำ

ฝ่ายค้านเสียงข้างมากสามารถตัดสินใจได้เลยว่า จะให้มีการยุบสภาแล้วก็มีเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้นเมื่อไหร่

กำหนดช่วงเวลาเลือกตั้งหลังสมการสว.สิ้นอำนาจไปแล้วก็ได้

ถึงวันนั้น เมื่อประชาชนเลือกเข้ามาใหม่ ก็จะจัดตั้งรัฐบาลขั้วประชาธิปไตยที่ไร้มลพิษสืบทอดอำนาจปนเปื้อนได้สำเร็จอย่างแน่นอน

การจัดตั้งรัฐบาลขั้วประชาธิปไตย ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรีบร้อนจัดตั้งให้ได้ในวันนี้ พรุ่งนี้

“การรอเวลา” เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนเข้าใจและรับได้

แต่หากวันนี้พรรคเพื่อไทยสลัดทิ้งพรรคก้าวไกล อย่างที่ถูกสงสัยมาโดยตลอด อย่างที่ถูกจับตามองว่ามีดีลลับมาก่อนล่วงหน้า

อนาคตพรรคเพื่อไทย บอกเลยว่าเสี่ยงสูงมากต่อการที่จะสูญพันธุ์

ส่วนข้ออ้างที่ว่า ถ้าไม่มีรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว งบประมาณปี 67 จะมีปัญหา จะไม่เพียงพอ ก็แก้ไขง่ายนิดเดียว เงินที่ไม่ได้มีความสำคัญ ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน ก็ชะลอการจ่ายให้หมด งบฟุ่มเฟือย งบดูงาน งบซื้อาวุธ งบกองทัพ รวมทั้งเงินเดือนสว. เงินเดือนผู้นำเหล่าทัพ ด้วย

ไม่ใช่ไม่จ่าย แต่จะจ่ายให้ช้า แปะโป้งไว้ก่อน คนเหล่านี้จะได้รู้ซึ้งถึงความเดือดร้อนของประชาชนบ้าง ในเวลาที่รายได้ฝืดเคือง

สมการที่ไม่ให้ความสำคัญกับมติของประชาชน ถ้ายังฝืนเลือกเลือกเดิน

ก็ต้องเดิมพันด้วยว่า เพื่อไทยกับ 6 พรรค และ พรรคขั้วอำนาจเก่าพร้อมที่จะสูญพันธุ์ในการเลือกตั้งครั้งใหม่หรือไม่?

อัคคี กัมปนาท