24 ตุลาคม 2024

‘ก้าวไกล’ ค้านลดเบี้ยผู้สูงอายุ ชี้ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เดินหน้า พ.ร.บ.บำนาญถ้วนหน้า

0

วันที่ 17 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลขอคัดค้านการออกระเบียบมหาดไทย ลดบำนาญประชาชน พร้อมสนับสนุนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บำนาญถ้วนหน้า ว่า ประเด็นที่ 1 กรณีของการประกาศระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2556 ที่ออกมาเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม และบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นของขวัญวันแม่ ที่มอบให้กับผู้สูงอายุทั้งประเทศ

พรรคก้าวไกล เห็นว่าประกาศดังกล่าวเป็นการหมุนกงล้อระบบสวัสดิการย้อนกลับจากที่ไทยควร ก้าวไปสู่การมีระบบสวัสดิการถ้วนหน้ากลับไปสู่ระบบสงเคราะห์ ที่ต้องพิสูจน์ความจนเพื่อได้รับการ ช่วยเหลือ เป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างไม่น่าให้อภัย และไม่น่าเกิดขึ้นในยุคโลกาภิวัฒน์ที่ ให้คุณค่ากับสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม

นายเซีย กล่าวว่า ปัญหาที่พรรคก้าวไกลกังวลว่าจะมีเพิ่มตามมา คือเรื่องกฎเกณฑ์ที่จะต้องออกหลังประกาศฉบับนี้ หากมีการใช้ฐานข้อมูลจากบัตรคนจน ก็มีการประเมินกันว่าจะมีผู้สูงอายุที่หลุดออกจากระบบ ไม่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุประมาณอีก 6 ล้านคน นอกจากนี้ ฐานข้อมูลของบัตรคนจน ก็มีความไม่เที่ยงตรงพอสมควร เพราะมีการสำรวจว่า มีคนจนประมาณ 46 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ได้บัตร แปลว่าข้อมูลตกหล่นจากฐานข้อมูลไปเยอะมาก ฉะนั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่าต้องมีการให้สวัสดิการแบบถ้วนหน้า เพื่อไม่ต้องมาเสียเวลาพิสูจน์ความจน เพื่อจะรับเงิน 600 บาทหรือแค่ ประมาณ 20 บาทต่อวัน

“พรรคก้าวไกลขอคัดค้านการออกระเบียบดังกล่าวตามเหตุผลที่กล่าวมา และเราขอยืนยันในสิ่งที่เราได้หาเสียงไว้ คือการสร้างสวัสดิการถ้วนหน้า ซึ่งได้มีการพิสูจน์มาแล้วหลายที่ในโลกว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ พรรคก้าวไกลเชื่อว่าสวัสดิการถ้วนหน้าไม่ได้มีราคาแพง ไม่เป็นภาระด้านงบประมาณ เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้โดยตรง เพราะเราเชื่อว่าสวัสดิการถ้วนหน้า คือสิ่งที่ประชาชนทุกคนควรได้รับ” นายเซีย กล่าว

นายเซีย กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นที่ 2 การเตรียมยื่น ร่าง พ.ร.บ. บำนาญถ้วนหน้า เพื่อเป็นก้าวแรกที่จะทำให้ระบบสวัสดิการ ของเราก้าวไปข้างหน้า โดยมีสาระสำคัญดังนี้ 1. มาตรา 5 ของพ.ร.บ.บำนาญถ้วนหน้า เรายืนยันว่าบุคคลทุกคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ต้องได้รับบำนาญแห่งชาติ โดยไม่ตัดสิทธิประโยชน์ของผู้สูงอายุที่ได้รับบำนาญตามกฎหมายอื่น หรือตามมติคณะรัฐมนตรี

2.จะต้องมีการกำหนดอัตราบำนาญแห่งชาติใหม่ทุก 3 ปี และ 3. ทุกคนต้องได้รับบำนาญต่อเดือนไม่ต่ำกว่า เส้นความยากจนของสำนักงานสภาพัฒน์ หรือตามที่เราเคยหาเสียงไว้ คือประมาณ 3,000 บาท และถ้าหากมีการปรับเส้นความยากจน เงินบำนาญนี้ก็ต้องปรับขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

“พรรคก้าวไกลเห็นว่าการยื่นพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะเป็นก้าวแรกสู่สวัสดิการถ้วนหน้า และประเทศไทยจะเดินหน้าสู่รัฐสวัสดิการ ด้วยการมี Universal basic income ให้ทุกคนอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ต้องพิสูจน์ความจนกันอีกต่อไป”นายเซีย กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *