‘อุ๊งอิ๊ง’ เผย ‘ทักษิณ’ มีอาการเครียด ส่วนเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้บิดาตัดสินใจเอง

วันที่ 29 สิงหาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการได้ไปเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตอนนี้คุณพ่ออ่อนเพลีย ซึ่งเห็นตั้งแต่วันที่เดินทางมาไทยแล้วว่าไม่ได้สดชื่นเหมือนเดิม ซึ่งเข้าใจว่าเพราะเป็น 17 ปีที่ไม่ได้อยู่เมืองไทยและคงจะมีอาการเครียดพอสมควร โดยวันที่ 22 สิงหาคม ทางครอบครัวก็เห็นว่าคุณพ่อเครียด และในคืนวันเดียวกันครอบครัวก็ทราบพร้อมสื่อว่าคุณพ่อถูกส่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจ และที่ไปเยี่ยมก็เห็นว่ายังมีอาการอ่อนเพลีย

น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวด้วยว่า ปี 2563 คุณพ่อเป็นโควิดตั้งแต่รุ่นอู่ฮั่น มีอาการหนักมาก เข้าห้องไอซียูไป 9 วัน รวมเวลาอยู่โรงพยาบาล 1 เดือน เมื่อออกมาน้ำหนักหายไป 10 กิโลกรัม ตอนนี้ก็ยังมีจุดอยู่ที่ปอด ซึ่งคุณพ่อพยายามออกกำลังกายเพื่อให้ฟื้นตัว ซึ่งถือว่ากลับมาได้เยอะแล้ว โดยรวมคุณพ่อดีใจที่ได้เจอตน แต่ยอมรับว่าคุณพ่อก็ยังเครียด ส่วนตัวมองว่าเพราะมีความเปลี่ยนแปลง ตอนที่อยู่ต่างประเทศสามารถไปไหนได้ ซึ่งใครก็ตามหากต้องเปลี่ยนที่อยู่ ต่อให้ไม่ใช่ราชทัณฑ์หรือในโรงพยาบาล การเปลี่ยนแปลงทำให้มีความรู้สึก ซึ่งต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงคุณพ่อ

“ที่โรงพยาบาลตำรวจมีคุณหมอเก่งๆ เยอะมาก และเราไม่ได้ขอย้ายไปที่โรงพยาบาลเอกชนแต่อย่างใด” น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงประเด็นว่าจำเป็นต้องย้ายตัวออกมาที่โรงพยาบาลเอกชนตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ ส่วนจะต้องใช้เวลารักษาตัวนานเท่าใดนั้น น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ได้สอบถามกับทางแพทย์ แต่ยังไม่มีความชัดเจน เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

สำหรับความชัดเจนเกี่ยวกับการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ทางครอบครัวจะดำเนินการอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ให้เป็นดุลยพินิจของคุณพ่อ จะจัดทำเมื่อไหร่ ก็ให้คุณพ่อเป็นคนจัดการ ไม่มีอะไรติดขัด ซึ่งการร่างขอพระราชทานอภัยโทษเป็นเรื่องของคุณพ่อที่จะเลือกเวลาและทำรายละเอียดต่างๆ ตามกระบวนการ คุณพ่อทำคนเดียว ตนไม่ทราบรายละเอียด

ประเด็นรู้สึกเสียใจหรือไม่ ที่สังคมมองว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง และมีอภิสิทธิ์ชนในการเข้ารับการรักษาตัว น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือไม่เสียใจ แต่เป็นห่วงคุณพ่อรวมถึงคนที่เป็นห่วงท่าน

กรณีสังคมมีข้อสงสัยเรื่องบรรยากาศห้องพักของนายทักษิณ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ห้องนายทักษิณอยู่ฝั่งที่มองไปเห็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นห้องปกติ ส่วนเรื่องเครื่องปรับอากาศเสีย ตอนนี้ซ่อมแล้ว

น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวเป็นห่วงเรื่องหัวใจ ส่วนเรื่องปอดเป็นเรื่องเดิมที่เป็นอยู่ หากเป็นอะไรจะไม่รวดเร็วเท่าเรื่องหัวใจ จึงเป็นห่วงเรื่องหัวใจมากที่สุด แต่รายละเอียดทางการแพทย์ อยากให้ถามทางการแพทย์

“ส่วนที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ที่โรงพยาบาลตำรวจ ขอฝากขอโทษสื่อมวลชนมา ณ ที่นี้ด้วย เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นทางลาดที่มีรถวีลแชร์เข็นเข้าออก รวมทั้งทางเข้าออกโรงพยาบาลก็มีผู้ป่วยและญาติเดินทางเข้าออกอยู่ตลอดเวลา จึงไม่อยากไปรบกวนสถานที่และทำให้คนอื่นไม่ได้รับความสะดวกในการใช้บริการที่ รพ.” น.ส.แพทองธารกล่าว