23 ตุลาคม 2024

ความตั้งใจที่จะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ด้วยการออกนโยบายแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท ให้กับคนไทย 56 ล้านคน เริ่มออกอาการท่าดีทีเหลว

คนค้านไม่ให้แจกยังพอรับไหว แต่เจอคนขู่ไอเสียงดัง คุกๆๆ เพื่อไทยถอยกรูด นิติสงครามถือเป็นแผลใจที่สยดสยองจนยากจะลืมเลือน

ถ้อยแถลงของ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สะท้อนชัดว่า จากจุดยืนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ทำท่าว่าเป็นได้แค่นโยบายประชานิยม

เพราะสรุปมา 3 แนวทาง ไม่ได้พูดถึง 56 ล้านคนอีกแล้ว แต่พูดถึงคนที่ลดลง แค่ 10 กว่าล้านคนที่ถือบัตรประชารัฐบ้าง หรือคนที่มีเงินเดือนเดือนละ 25,000 บาทมีเงินฝาก 100,000 บาท กับคนที่มีเงินเดือน 50,000 บาทมีเงินฝาก 500,000 บาท

ไม่ว่าเลือกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งใน 3 กลุ่มนี้ ก็คือการไม่ทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงเอาไว้

แถมเมื่อเจอแรงต้านหนักๆเรื่องเอาเงินที่ไหนมาใช้แจก สุดท้ายที่เคยยืนยันว่าคิดมาดี คิดมารอบคอบ ก็สารภาพว่าคงต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน

เพราะจะไปขอใช้เงินแบงค์ออมสินก็ทำไม่ได้แน่นอนแล้ว

ที่น่าเป็นห่วงก็คือการใช้งบประมาณ ต้องเฉลี่ยใช้ 4 ปี กลายเป็นโครงการระยะยาว ไม่ใช่โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเสียแล้ว

น่าห่วงก็คือร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ที่บอกว่าจะช่วยรายเล็กๆ แบบนี้ใครจะเข้าร่วม ขายของวันนี้ ให้รอได้เงินอีก 1 ปี คงมีแต่เจ้าสัวเท่านั้นที่จะเข้าร่วมโครงการได้

ส่วนข้อกังขาเรื่องเงินค่าสร้างค่าทำระบบที่มีคนโจมตีว่าอาจจะรั่วไหล หรือมีการล็อคสเปคไว้ก่อนแล้วว่าใครจะได้ไป ตรงนี้เสนอชัดว่าให้แบงค์กรุงไทย…อีกแล้วครับท่าน เป็นคนได้ไป

ทุกวันนี้ทุกอย่างไปโปะอยู่ที่แบงค์กรุงไทยหมด ตั้งแต่ยุคประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว ครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าแบงค์กรุงไทยจะไหวแค่ไหน เพราะฝันร้ายระบบล่มยังเป็นสิ่งที่ลูกค้าแบงค์กรุงไทยบ่นกันมาตลอด

คำถามก็คือในเมื่อจะใช้แบงค์กรุงไทย แล้วทำไมไม่ใช้แอพเป๋าตังค์ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ทำไมต้องตั้งงบประมาณไว้ว่าจะใช้ไม่เกิน 12,000 ล้านบาท

ไหนเมื่อ 17 ตุลาคม เพื่อไทยเพิ่งยืนยันว่าไม่มีการใช้เงิน 12,000 ล้านบาท พอมาแถลงแบบนี้เลยถูกมองว่าเล่นลิ้น ว่าก็ใช้ไม่ถึง 12,000 ล้านบาทแล้วไง

แถมเป็น 12,000 ล้านบาทที่มาจากงบประมาณที่เป็นเงินภาษีของประชาชน แต่วันนี้บอกว่าจะตัดกลุ่มคนที่เป็นคนเสียภาษีหลักของประเทศนี้ออกไป ไม่ให้ได้รับแจก

วันนี้การแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท จึงไม่ใช่คูปองดิจิตอลอย่างที่ถูกนินทาว่าเป็นลอกประเทศอื่นมา และไม่ใช่คูปองดิจิตอลระยะสั้น อย่างที่นางแบกทั้งหลายพยายามช่วยอุ้มอย่างสุดตัว

ไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยปล่อยให้ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ออกมาแถลงแบบนี้ได้อย่างไร

ยิ่งถ้าย้อนกลับไปดูในช่วงเดือนกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา คำพูดของจุลพันธ์กลับไปกลับมาตลอด

จริงๆเอาใจช่วยเพื่อไทยอยู่ลึกๆ เพราะรู้ดีว่าปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้อย่างหนักหนาสาหัสจริงๆ

เพราะมรดกผลงานความล้มเหลวด้านเศรษฐกิจ ด้านการกู้เงิน และการไม่มีปัญญาหารายได้ของรัฐบาลประยุทธ์ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้รัฐบาลเศรษฐาเดินหน้าไม่ได้ง่ายๆอย่างที่คิด

ลึกๆก็อยากให้รัฐบาลเพื่อไทย สามารถสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจได้จริงๆ ที่ผ่านมาจึงไม่ได้คัดค้านนโยบายจากเงินดิจิตอล

แต่พอฟังจุลพันธ์แถลงเที่ยวนี้ยอมรับว่าผิดคาดและผิดหวัง ในเมื่อบอกว่าเป็นนโยบายที่คิดมาอย่างรอบคอบแล้ว กลับมาถอยกรูดๆเช่นนี้จะบอกว่ารอบคอบได้อย่างไร

แต่สำคัญที่สุด แถลงให้คนงงให้คนผิดหวังแบบนี้ แถลงแบบโยนภาระให้ เศรษฐา ทวีสิน ตัดสินใจแบบนี้ จะแถลงทำไม

ตอนนี้เมาธ์กันกระหึ่มแล้วว่า หรือพายุหมุนเศรษฐกิจ จะกลายเป็นแค่ลมว่าวเศรษฐกิจ ที่พัดเอื่อยๆ ไร้พลัง

อัคคี กัมปนาท

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *