24 ตุลาคม 2024

“ผลลัพธ์ของการลงมือทำ การันตีความสำเร็จได้เสียงดังกว่าคำพูด” จงรู้เอาไว้เลยว่า “มธุรสวาจา”เป็น“ใบสั่งฆ่า” ที่ยื่นมาให้ถึงมือด้วยปากแห่งตนเอง

ไม่เห็นหรือว่า?.. “สมาคมพูดเป็นต่อยหอย” ส่งตัวเองเข้าหา“ความเสื่อม”ในท้ายที่สุด

“ปากนั่นแหละ” เป็นเสมือนกับ“จอบแลเสียม” ที่ขุดหลุม “ฝังตัวเอง”ให้ตายก่อนวัย

ยกขบวน“นักพูด”กันมายาวเหยียด แทนที่จะ“ได้เกียรติความนับถือ” กลายเป็นว่า..ตายสิ้นกันยกกะบิ

แต่เห็นการ “ปรับจูน” คลื่นความถี่ในพรรคให้เป็น “นักปฏิบัติ” สู่โหมดแห่งบริบท“การลงมือทำ”ให้มากกว่าพูด

ทิ้งระบบนักจ้อ ที่“พูดเพื่อเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น” เหมือนไม่“ประมาณความรู้ประชาชน” เขารู้ทันกันหมดแล้ว

การสร้างบ้านเมืองด้วย“น้ำลาย” ไม่เป็น“จุดขาย” ได้สืบไป เหมือนเก่าก่อนแล้วนะท่าน

“ปรับทัพ”ด้วยการลงมือทำอย่างจริงจัง ของ“เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงจะไม่“ฉูดฉาด-บทบาทเด่น” แต่ก็“ลดโทน” เจือจาง“พรรคที่ดีแต่พูด”ลงมาหลายกิโลขีด

มองเห็นได้ชัดว่าเป็น“พรรคสายกลาง” ที่ไม่เอียง-ด้วยเสียงด่า ในการพร่ำให้น้ำลายแตกฟอง

เริ่มมีความ“โดดเด่น” เป็น“สีสันแห่งการเมือง” ที่ใช้“การปฏิบัติ” นำ“การพูด”ที่เป็นยุทธศาสตร์มาเกือบร้อยปี

ไม่นานจากนี้หรอก “พวกนักด่า”ที่เคยมีอยู่เกลื่อนพรรค จะ“ถูกถอนหมุด” ไม่เหลือ“คนที่พร่ำแต่พูด”กันอีกแล้ว กลับมา“เติบโตในโลกแห่งความเป็นจริง” มีแต่ปริดอก-ออกผล ให้ “คนศรัทธา”เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี

“นักการเมือง”ที่“เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ” ดีแต่ป้อ พูดเอาหล่อพรรค์นั้น มันถึง“ยุคตกต่ำ” พ้นขีดในการเป็น“ผู้นำ”กันมานานแล้ว

“บ่มตัว-ถนอมตัว”ให้สมบูรณ์ ไม่นานหรอกที่“เฉลิมชัย” กัปตัน“นาวาประชาธิปัตย์” ต้องนำพรรคกลับมาอยู่ในแถวหน้า

จะเป็นอีกหนึ่งพรรค ที่เป็น“แกนนำรัฐบาล” ที่พรรคไหนๆก็เชื่อน้ำมนต์ ว่าเป็นพรรคที่“ลงมือทำงานจริง” ด้วย“กุศโลบาย”อันแยบคายและชาญฉลาด..“ไม่เก่งในการสับ” ด่าพรรคอื่นเมามันส์ ย่อม“สร้างมิตร”ขึ้นทุกวัน

ประเภทที่จ้องแต่ละด่า“เสียงไม่ตกฟาก”…ก็เห็นแล้วว่า ได้พา“ประชาธิปัตย์”ลงมาสู่“ความเสื่อม”ที่เป็นศูนย์อย่างหนัก

“พรรคที่เป็นมิตร-คิดบวกกับทุกคน” เห็นกันแล้วว่า“เจริญก้าวหน้า” สู่ความรุ่งเรือง-บนเส้นทางการเมือง พิสูจน์ให้เห็นแล้ว เช่น “พรรคภูมิใจไทย” ของ“อนุทิน ชาญวีรกุล” ที่มี “เนวิน ชิดชอบ”เป็นอาจารย์ใหญ่ คอยติวอยู่หลังฉาก

ได้โอกาสร้อยเปอร์เซ็นต์เสมอ ที่มี“เทียบเชิญ” นิมิตหมายอันดี ในการ“ชักชวน”ให้เข้าร่วมเป็นรัฐบาลได้ทุกสูตร

จนมีการ“ยืมมือ” เพื่อที่จะ“แทงพรรคเพื่อไทย”ให้ดิ้นพล่าน-พ้นเส้นทางการเป็น“แกนนำรัฐบาลไป”

แต่การ“ยืมดาบฆ่าคน”ของบางพรรค?.. ที่กระสันเป็น“รัฐบาล”กันจนตัวสั่น เพราะอยากได้“อำนาจมาอยู่ในมือ” ก้อต้อง“ตกพุ่มม่าย” ฝันค้าง ..ถึงขนาด“ยกขันหมาก”ส่งตรงให้ “อนุทิน”เป็น“นายกรัฐมนตรี”ทีเดียว

แต่คน“รู้จักพอ” ไม่เต้นไปตามเสียงเชียร์ “ท่านอนุทิน”ปฏิเสธไป.. พาให้หน้าม้าน สีหน้าเผือด ได้รับความละอายทั่วหน้า

เพราะความเป็น“พรรคสายกลาง” อยู่อย่าง“พอเพียง”นี่แหละ..ทำให้ “อนุทิน”ไม่เคยเป็น“ตำบลกระสุนตก”

ขืนไป“เชื่อคำเขา” มีเค้าว่าถ้าเป็น“เบอร์หนึ่งของแผ่นดิน” ไม่รอดปากเหยี่ยว-ปากกา ให้บาดเจ็บแน่นอน

การเป็น“ผู้นำของชาติ” ต้องไม่“เปิดศึก-คึกคะนองผยองขน” ป็นอันขาด

เช่น“เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ ยังส่งเสียงอบอุ่น ขอบคุณไปถึง“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีตนายกฯ ว่าสร้างผลงานอื้อ

มีคนคิดถึงท่านมากหลาย อยากให้กลับมาเป็น“นายกฯ”..ซึ่ง “เศรษฐา”ว่านี่เป็นของธรรมดาของคนที่มีผลงานมา ๘ ปี

“หยุดที่จะด่า”และ“โจมตีใคร”..นี่ถือเป็นจุดแข็งที่“เศรษฐา”เป็นนักบริหารที่ไม่ติดนิสัยปากไว

ผูกใจได้ทั้ง“อนุทิน” และ“พล.อ.ประยุทธ์” ยิ่งกว่า“กาวตราช้าง”ชั้นดี

“สร้างมิตร”ให้ไว้วางใจยิ่งขึ้น…“เมื่อทุกพรรคไม่เป็นอื่น” การอยู่เป็นนายกฯ ๔ ปี ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *