ดุเดือดไปมุ้ยอ่ะ ‘ชาดา’

ช็อคไปตามๆกัน กับการแสดงออก และการพูดกลางสภา ของคนชื่อ ‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’

ต่อให้เข้าใจว่าอินกับบท และต้องการเปิดเกมแรง รวมทั้งอาจจะผ่านประสบการณ์ที่ต้องดิ้นรนฟันฝ่าอิทธิพลท้องถิ่น หรือเรื่องดุเดือดในพื้นที่ จนอาจจะคุ้นชินกับการใช้ความรุนแรง การใช้อาวุธปืนเป็นเครื่องตัดสิน

แต่ถามจริงๆเถอะว่า เข้าใจในเรื่องของความเหมาะสมต่อสถานที่และกาลเทศะหรือไม่

ถ้าพูดในบ้าน พูดในพื้นที่อิทธิพลจะพูดยังไงก็ได้ ไม่มีใครว่า

แต่พูดกลางที่ประชุมรัฐสภา พูดออกไปแบบนั้นมันเหมาะสมแล้วหรือ มันสมควรแล้วหรือ

จะยิงเพื่อปกป้อง คำพูดและวิธีคิดเช่นนี้ ไม่คิดหรือว่าสร้างผลกระทบกระเทือนสักเพียงใด

ถ้าหากว่าเป็นคำพูดของแก๊งนักเลง ซุ้มมือปืน ที่มักชอบพูดกันว่า ไม่ต้องกลัวมีอะไรเดี๋ยวน้องยิงให้เองพี่ แบบนั้นเข้าใจได้

แต่ ชาดา ไทยเศรษฐ์ ไม่ใช่นักเลง ไม่ใช่มือปืนไม่ใช่หรือ ชาดา เป็นส.ส.ไม่ใช่เหรอ แล้วไปพูดเลียนแบบเช่นนั้นได้อย่างไร

แถมที่บอกว่าได้ยิงกันเลือดสาดทั้งประเทศ อยากขอถามว่าประชาชนที่บริสุทธิ์ ประชาชนที่ทำมาหากินตามปกติ จะเอาปืนที่ไหนมายิงกันให้เลือดสาดอย่างที่ว่า

ปืนส่วนใหญ่มันอยู่ในมือของใครกันบ้าง ก็รู้ๆกันอยู่

ถ้าประชาชนมีปืน มีอาวุธ และพร้อมต่อสู้จริงๆ ทุกครั้งที่มีทหารลากอาวุธออกมาทำปฏิวัติรัฐประหาร ก็คงได้สู้กันไปแล้ว

แต่ทุกครั้งประชาชนมือเปล่า เป็นฝ่ายถูกกระทำ เป็นฝ่ายถูกทำร้าย เป็นฝ่ายถูกฆ่า

การไปพูดว่า ถ้าแก้ไขกฎหมายหลังจากนั้นจะได้ยิงกันอุตลุดเลือดสาดไปหมดนั้น ประเทศนี้มีการเปิดให้ประชาชนสามารถมีปืนได้อย่างเสรีแล้วหรือ

หรือว่านอกจากกัญชาเสรีแล้ว จะมีการพกปืนเสรี

จะทำให้เมืองไทยเป็นยุคคาวบอยกันอย่างนั้นหรือ

ถึงได้ไม่เข้าใจว่าพูดออกไปได้อย่างไร

ลองไปทบทวนดูนะ ถ้าคิดว่าสิ่งที่พูดไปเป็นเรื่องของอารมณ์ แต่ไม่รู้ว่าจะทันมั้ย เพราะคนเห็นกันทั้งประเทศไปแล้ว

หนามกุหลาบ